ต่อมาวันหนึ่ง พระมาลัยเข้าไปบิณฑบาตในหมู่บ้านกัมโพชคาม ที่ท่านอยู่นั้น
พอดีขณะนั้น มีบุรุษเข็ญใจคนหนึ่ง ซึ่งเป็นชาวบ้านกัมโพชคาม
และพ่อของเขาได้ตายไปนานแล้ว เหลืออยู่แต่แม่
เขาได้อุตส่าห์ทนลำบากหาเลี้ยงแม่มาด้วยดี ทุกๆเช้า เขาจะถือขวานเข้าสู่ป่า
เพื่อตัวฟืนมาขายตามประสายาก สักพักใหญ่ เมื่อได้ฟืนพอสมควรแล้วก็แบกกลับมา
วันนั้น
เขากลับจากหาฟืน เดินผ่านสระแห่งหนึ่ง ซึ่งมีน้ำใสสะอาด จึงลงอาบในสระ
ชำระล้างเนื้อตัว ระงับความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า เสร็จแล้วก็ก้าวขึ้นมา บังเอิญ
เหลือบเห็นดอกบัวบาน สะพรั่งชูช่อไสว อยู่ข้างๆ ฝั่งสระ จึงเด็ดเอามา 8 ดอก
ครั้นขึ้นจากสระ แล้วก็เดินกลับบ้าน พอดีพบพระเถระ กลับจากบิณฑบาต สวนทางมา
และด้วยท่วงท่าอันสง่างามของพระเถระ ทำให้เกิดความเลื่อมใส จึงตรงเข้าไปนมัสการ
แล้ววางดอกบัวบนปากบาตร พลางถามอย่างอ่อนน้อมว่า
"พระคุณเจ้าขอรับ ข้าพเจ้าบูชาด้วยดอกบัวในครั้งนี้ ด้วยหวังใจอยากจะได้ ร่ำรวย
มั่งมี พ้นทุกข์พ้นยาก ทันตาเห็น ความหวังของข้าพเจ้าครั้งนี้จะสำเร็จหรือเปล่า
ขอรับ?"
เมื่อถูกถามแบบจู่โจมเช่นนั้น พระเถระก็นั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง
แล้วจึงตอบเสียงเนิบนาบว่า
"พ่อหนุ่ม ท่านปรารถนาเกินวิสัยเสียแล้ว ท่านจะมีผลทันตาเห็น
จะต้องเป็นทานที่ถวายแก่พระอรหันต์ ที่เพิ่งออกจากนิโรธสมาบัติมาใหม่เท่านั้น
สำหรับตัวเราออกมานานแล้ว เห็นจะโปรดให้สำเร็จสมใจหวังไม่ได้แน่ละ"
"แต่ข้าพเจ้าได้ทราบมานานแล้วว่า ถ้าได้ทำบุญกับพระอรหันต์แล้ว
ย่อมจะได้ผลทันตาเห็นนี่นะ พระคุณเจ้า?" ชายเข็ญใจย้อนถาม
"ไม่เสมอไปหรอกท่าน สมเด็จพระศาสดาของเราตรัสบอกไว้ว่า ทานที่จะได้ผลทันตาเห็นนั้น
จะต้องมีสิ่งประกอบ 4 อย่างคือ ถึงพร้อมด้วยผู้รับทาน
นับแต่พระโสดาบันจนถึงพระอรหันต์ ผู้ออกจากนิโรธสมาบัติ
ถึงพร้อมด้วยไทยธรรมที่หามาได้โดยชอบ ถึงพร้อมด้วยเจตนาจะให้ทาน
และพระอรหันต์ผู้มากด้วยคุณธรรมเป็นผู้ยินดีในนิโรธสมาบัติ
สำหรับท่านเพียงผู้รับเป็นพระอรหนต์ กับมีไทยธรรม รวมกันสองอย่างเท่านั้น
จะให้สำเร็จทันตาเห็นได้ยังไง"
"ถ้าอย่างนั้น ข้าพเจ้าจะทำยังไงจึงจะได้ผลดี เล่าพระคุณเจ้า?"
"พ่อหนุ่มเอ๋ย ท่านจงเอาดอกไม้บูชาพระรัตนตรัยเถิด"
"พระรัตนตรัย? พระคุณเจ้าหมายถึงอะไรขอรับ?"
"หมายถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อหนุ่ม"
"อยู่ที่ใจของท่านเอง พ่อหนุ่มเอ๋ย จงตั้งใจระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ
และพระสังฆคุณ เสียก่อน แล้วกล่าวว่า ข้าพเจ้าขอบูชาดอกไม้เหล่านี้ แด่พระพุทธเจ้า
พระธรรม พระสงฆ์ เพียงแค่นี้ก็จัดว่าท่าน ได้บูชาพระรัตนตรัยแล้ว
และจะต้องได้รบผลดีเป็นแน่"
เมื่อชายเข็ญใจได้ฟังพระเถระอธิบายดังนั้น ก็กระทำตามคำของท่าน
พร้อมทั้งตั้งความปรารถนาว่า
"ด้วยเดชะบุญที่ข้าพเจ้าถวายดอกบัวครั้งนี้ ถ้าข้าพเจ้ายังเวียนว่ายตายเกิดอยู่
จะเกิดในภพใดๆ ก็ดี ขึ้นชื่อว่า ความยากจนเข็ญใจไร้ทรัพย์ เหมือนชาตินี้
แล้วขออย่าได้มีแก่ข้าพเจ้าเลยเป็นอันขาด"
"ขอท่านจงสำเร็จดังที่ปรารถนาเถิด"
พระมาลัยเถระ กล่าวอนุโมทนาในที่สุด แล้วเดินจากไป
-------------------------------------------
หลังจากที่พระมาลัยกลับมาถึงวัด และฉันอาหารเช้า เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ท่านก็นั่งคิดอยู่ในใจว่า
"สถานที่ให้เกิดธรรมสังเวช 7 แห่ง คือ ที่พระศาสดาประสูติ
ตรัสรู้ แสดงธรรมจักร ทรงกระทำยมกปาฏิหารย์ เสด็จลงจากดาวดึงส์ปรินิพพาน
และสถานที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาททั้ง 5 นั้น เราได้ถวายสักการบูชาเสมออยู่แล้ว
ยังเหลือแต่พระจุฬามณีสถาน ซึ่งเป็นที่มวยพระเกศธาตุ
ของพระบรมศาสดาประดิษฐานอยู่บนสวรรค์นั้น เรายังมิได้ขึ้นไปนมัสการเลย
พอดีครั้งนี้เราได้ดอกบัวมา 8 ดอก ควรที่จะนำดอกบัวนี้ขึ้นไปบูชาพระจุฬามณีสถาน
ในดาวดึงส์สวรรค์ดีกว่า"
เมื่อคิดดังนั้นแล้ว พระเถระก็เข้าจตุตถฌาน
บันดาลให้ร่างของท่านเหาะลอยล่องขึ้นสู่อากาศมิทันช้า เพียงลัดนิ้วมือเดียว
ก็ถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และมาปรากฏอยู่ ณ
ลานพระจุฬามณีเจดีย์เบื้องหน้าไพชยนต์ปราสาท ของพระอินทร์ ผู้เป็นใหญ่ในสรวงสวรรค์
พระเถระยกหัตถ์ขึ้นนมัสการพระจุฬามณี ทั้ง 8 ทิศ บูชาด้วยดอกอุบลทั้ง 8 ดอก
แล้วกระทำประทักษิณ 3 รอบ พร้อมทั้งนั่งลงนมัสการ กราบไหว้ทั้ง 8 ทิศ เสร็จแล้วนั่ง
ณ ที่ข้างพระเจดีย์มุมหนึ่ง...........
>>>