ปริจเฉทที่ ๑ ชื่อจิตตสังคหวิภาค
หน้าที่
: 1 2
3 4 5 6 7
8 9 10 11 12
13 14 15 16 17
18 19 20 21 22
23 24 25
26 27 28 29 30 31 32
33 34 35 36 37 38 39
40 41 42 43 44 45 46
47 48 49 50
51 52 53 54 55 56 57
58 59 60 61 62 63 64
65 66 67 68 69 70 71
72 73 74 75
76 77 78 79 80 81
82 83 84 85 86 87 88 89
90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100
101 102 103 104 105 106 107 108
109 110 111 112 113 114 115 ค้นหาหัวข้อธรรม
อกุสลจิตเป็นธรรมที่ควรละ
อกุสลจิต เป็นจิตที่ชั่ว ที่บาป
มีโทษและให้ผลเป็นทุกข์
จึงเป็นธรรมที่ควรละ
โลภมูลจิต
เป็นจิตที่เกิดจากความโลภ
ความอยากได้
ถ้าไม่ระมัดระวังไว้บ้างก็จะอยากได้จนหาประมาณหาที่สุดมิได้
จงละด้วยสันโดษ
๑. ความพอใจเท่าที่มีอยู่
๒.
ความพอใจเท่าที่กำลังตนจะหาได้
๓.
ความพอใจเท่าที่จะพึงหาได้โดยชอบธรรม
โทสมูลจิต
เป็นจิตที่เกิดจากความเกลียด
โกรธ ประทุษร้าย ทำลาย
อันมีแต่ความวู่วามก่อให้เกิดโทษ
จงละด้วยเมตตา โดยพิจารณาเสมอ ๆ
ว่า ตัวเราเกลียดทุกข์
ต้องการความสุขฉันใด
ผู้อื่นสัตว์อื่นก็เกลียดทุกข์แสวงสุขเหมือนตัวเราฉันนั้น
วิธีที่จะประหานโทสะ ๖ ประการ คือ
๑. ศึกษาในเมตตานิมิต
๒. ประกอบภาวนาในเมตตาบ่อย ๆ
๓. พิจารณาว่าเป็นกรรมของตน
๔. ทำให้มากด้วยปัญญา
๕. มีมิตรที่ดี (ที่มีเมตตา)
๖. ได้ฟังถ้อยคำที่สบาย (เมตตากถา)
โมหมูลจิต
แม้จะไม่เห็นโทษเด่นชัด
แต่ก็มีโทษไม่น้อย
เปรียบเสมือนสนิมเหล็กที่กัดกินเนื้อเหล็กให้กร่อนลงทีละน้อย
จนขาดผุไปอย่างไม่รู้ตัว
วิธีประหานโมหะ
เหตุที่ประหานวิจิกิจฉา ๖ ประการ
๑. เป็นพหูสูต ได้ยินได้ฟังมามาก
๒. หมั่นสอบสวนทวนถาม
๓. รอบรู้ชำนาญและเคร่งในวินัย
๔. มากด้วยการตัดสินใจเชื่อ
๕. มีมิตรที่ดี
๖. ได้ฟังถ้อยคำอันเป็นที่สบาย (สัปปายกถา)
เหตุที่ประหานอุทธัจจะ ๖ ประการ
๑. เป็นพหูสูต ได้ยินได้ฟังมามาก
๒. หมั่นสอบสวนทวนถาม
๓. รอบรู้ชำนาญและเคร่งในวินัย
*๔. ได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้าบ่อย
ๆ
๕. มีมิตรที่ดี
๖. ได้ฟังถ้อยคำอันเป็นที่สบาย (สัปปายกถา)
จัดทำโดย มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ