ปริจเฉทที่ ๑ ชื่อจิตตสังคหวิภาค
หน้าที่
: 1 2
3 4 5 6 7
8 9 10 11 12
13 14 15 16 17
18 19 20 21 22
23 24 25
26 27 28 29 30 31 32
33 34 35 36 37 38 39
40 41 42 43 44 45 46
47 48 49 50
51 52 53 54 55 56 57
58 59 60 61 62 63 64
65 66 67 68 69 70 71
72 73 74 75
76 77 78 79 80 81
82 83 84 85 86 87 88 89
90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100
101 102 103 104 105 106 107 108
109 110 111 112 113 114 115 ค้นหาหัวข้อธรรม
๒. ทุติยฌาน
มีองค์ฌานเพียง ๔ โดยละ วิตก
ซึ่งเป็นองค์ฌานองค์แรกได้ที่ละวิตกเสียได้เพราะ
ผู้ที่ได้ปฐมฌาน
จะต้องหัดเข้าปฐมฌานจนชำนิชำนาญแล้วจึงเริ่มทำทุติยฌานได้
เมื่อจะขึ้นทุติยฌาน เห็นว่า
วิตก
เป็นองค์ฌานที่หยาบกว่าองค์ฌานอีก
๔ คือ วิจาร ปิติ สุข เอกัคคตา
จึงละเสีย
แล้วเริ่มต้นด้วยการเพ่งปฏิภาคนิมิตเลยทีเดียว
เพ่งปฏิภาคนิมิตตามวิธีการจนทุติยฌานเกิด
อนึ่ง
การละวิตกเพราะเห็นว่าเป็นของหยาบตามหลักที่ได้กล่าวแล้วนั้น
ยังมีเหตุผลที่น่าจะเป็นดังต่อไปนี้ด้วย
ก. เพราะความชำนาญ
มีความคล่องแคล่วว่องไว (มีวสี)ในปฐมฌาน
จึงเริ่มทำทุติยฌานด้วยการเพ่งปฏิภาคนิมิตเลยทีเดียว
ไม่ต้องเพ่งดวงกสิณเหมือนเมื่อเริ่มทำปฐมฌาน
คือไม่ต้องใช้วิตกยกจิตขึ้นเพ่งดวงกสิณ
จะเปรียบได้เหมือนเด็กที่เริ่มเรียนบวกเลขว่า
๔ กับ ๓ บวกกันได้เท่าไร
ซึ่งอาจจะต้องทำพิธีคิด
คือยกมือชูขึ้น ๔ นิ้ว
และอีกมือชูขึ้น ๓ นิ้ว
แล้วนับจึงตอบได้ว่า ๗
ที่แปลว่ามีพิธีในการคิด คือ
มีวิตก
ถ้าหากว่าเรียนมาจนคล่องแคล่วชำนาญแล้ว
ก็ตอบได้ทันทีที่ถาม ว่าเป็น ๗
โดยไม่ต้องชูนิ้ว
ไม่ต้องนับเท่ากับว่าไม่ต้องคิดไม่ต้องใช้วิตก
ข. ผู้เข้าปฐมฌานจนถึงมีวสีแล้ว
ย่อมไม่มีความหดหู่ท้อถอย
คือปราศจากถีนมิทธะแล้ว
จึงไม่ต้องใช้วิตกเผาอีกเพราะปฐมฌานได้ข่มถีนมิทธะมาจนอยู่มือแล้ว
จัดทำโดย มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ