The Wayback Machine - https://web.archive.org/web/20180403010545/http://abhidhamonline.org:80/aphi/p1/102.htm

ปริจเฉทที่ ๑ ชื่อจิตตสังคหวิภาค

หน้าที่ : 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50
51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74
75
76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94
95 96 97 98 99 100
101 102 103 104
105 106 107 108 109 110 111 112 113 114 115
ค้นหาหัวข้อธรรม

ละความชั่วทั้งปวง ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้ใสบริสุทธิ์...

จำแนกโลกุตตรจิตโดยชาติเภทเป็นต้น

๑. ชาติเภท โลกุตตรจิตโดยย่อ ๘ ดวงก็ดี โลกุตตรจิตโดยพิสดาร ๔๐ ดวงก็ดี จำแนกโดยชาติได้ ๒ คือ

โลกุตตรกุสลจิต หรือ มัคคจิต โดยย่อ ๔ ดวงก็ดี โดยพิสดาร ๒๐ ดวง ก็ดี เป็นชาติกุสล

โลกุตตรวิบากจิต หรือ ผลจิต โดยย่อ ๔ ดวงก็ดี โดยพิสดาร ๒๐ ดวง ก็ดี เป็นชาติวิบาก

ดังนั้นจึงเรียกกันสั้น ๆ ว่า มัคคเป็นกุสล ผลเป็นวิบาก

๒. ภูมิเภท โลกุตตรจิตเป็นโลกุตตรภูมิ คือเป็นจิตชั้นที่เหนือยิ่งกว่าจิตชั้นใด ๆ ทั้งสิ้น

๓. เวทนาเภท โลกุตตรจิตโดยย่อ ๘ ดวงนั้น ถ้ามหากุสลญาณ สัมปยุตตจิตที่เจริญวิปัสสนาภาวนา เป็นโสมนัสสเวทนา จนโลกุตตรจิตเกิด โลกุตตรจิตที่เกิดขึ้นนั้นก็เป็นโสมนัสเวทนาเช่นเดียวกัน

ถ้ามหากุสลญาณสัมปยุตตจิต ที่เจริญวิปัสสนาภาวนานั้นเป็นอุเบกขาเวทนาจนโลกุตตรจิตเกิด โลกุตตรจิตที่เกิดขึ้นนั้นก็เป็นอุเบกขาเวทนาเช่นเดียวกัน

ส่วนโลกุตตรจิตโดยพิสดาร ๔๐ ดวงนั้น เป็นโลกุตตรจิตที่ประกอบด้วยฌานซึ่งฌานที่ประกอบกับโลกุตตรจิตนั้นมีเวทนาอย่างใด โลกุตตรจิตนั้นก็มีเวทนาอย่างนั้น กล่าวคือ

โลกุตตรจิตที่ประกอบด้วยปฐมฌานก็ดี ทุติยฌานก็ดี ตติยฌานก็ดี แม้จตุตถฌานก็ดี เหล่านี้ย่อมเป็นโสมนัสเวทนา เพราะฌานเหล่านั้นที่ประกอบกับโลกุตตรจิตเหล่านี้ เป็นฌานที่เกิดพร้อมกับโสมนัสเวทนา

โลกุตตรจิตประกอบด้วยปัญจมฌาน ย่อมเป็นอุเบกขาเวทนา เพราะปัญจมฌานนั้น เป็นฌานที่เกิดพร้อมกับอุเบกขาเวทนา

๔. เหตุเภท โลกุตตรจิตเป็นสเหตุกจิต เป็นจิตที่มี สัมปยุตตเหตุ และเหตุที่ประกอบก็ครบทั้ง ๓ เหตุเต็มที่คือ อโลภเหตุ อโทสเหตุและอโมหเหตุ

๕. สังขารเภท โลกุตตรจิตโดยย่อ ๘ ดวงก็ดี โดยพิสดาร ๔๐ ดวงก็ดีเป็นสสังขาริกจิต ทั้งสิ้น เพราะโลกุตตรจิตจะเกิดได้ก็โดยอาศัยมหากุสลญาณสัมปยุตตจิตเจริญวิปัสสนาภาวนามาก่อน จึงต้องถือว่ามหากุสลญาณสัมป ยุตตจิตนั้นแหละเป็นสิ่งที่ชักจูงให้โลกุตตรจิตเกิดขึ้น

๖. สัมปยุตตเภท โลกุตตรจิตจะเป็นญาณสัมปยุตต เป็นจิตที่ประกอบด้วยปัญญา เป็นจิตที่มีปัญญา ถ้าเป็นจิตที่ไม่มีปัญญา เป็นจิตญาณวิปปยุตต ไม่ใช้ปัญญาประกอบด้วยแล้ว โลกุตตรจิตเกิดขึ้นไม่ได้เลยเป็นอันขาด

๗. โสภณเภท โลกุตตรจิตเป็นโสภณจิต เป็นจิตที่ประเสริฐยิ่งกว่าจิตใด ๆ ทั้งปวง ไม่มีจิตใดจะประเสริฐเทียบเทียมได้เลย

๘. โลกเภท โลกุตตรจิตประเภทเดียวเท่านี้แหละเป็นโลกุตตระ หาใช่โลกียะไม่ นอกจากโลกุตตรจิตนี้แล้ว จิตอื่น ๆ นั้น เป็นโลกียจิตทั้งหมด

๙. ฌานเภท โลกุตตรจิตโดยย่อ ๘ ดวง เป็นจิตที่ไม่มีฌานจิตประกอบด้วยซึ่งเป็น อฌานจิต

แต่อย่างใดก็ดี โลกุตตรจิตโดยย่อ ๘ ดวงที่ไม่ได้ฌานด้วยนี้ ก็ถือว่าเป็นปฐมฌาน ถึงซึ่งปฐมฌานด้วย ด้วยเหตุนี้จึงเห็นว่า โลกุตตรจิตโดยย่อ ๘ ดวงนี้ ควรจัดเป็นฌานจิตได้ด้วย

ส่วนโลกุตตรจิตโดยพิสดาร ๔๐ ดวงนั้น เป็นจิตที่ประกอบด้วยฌานโดยแท้ จึงเป็น ฌานจิต อย่างไม่มีปัญหา

 

สอบถาม ปัญหาธรรมะ ได้ที่ลานธรรมมูลนิธิ ค่ะ...
จัดทำโดย มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ
ศีล สมาธิ ปัญญา... หนทางสายเอก...