คือ แนวทางแห่งการปรากฏของจิต ๖ ทาง
๑. จักขุทวารวิถี ได้แก่ จิต ๔๖ ดวง คือ
มโนธาตุ ๓ ดวง
มโนทวาราวัชชนจิต ๑ ดวง รวม ๔๖ ดวง
กามชวนจิต ๒๙ ดวง
๒. โสตทวารวิถี ได้แก่ จิต ๔๖ ดวง เหมือนทางตา
๓. ฆานทวารวิถี ได้แก่ จิต ๔๖ ดวง เหมือนทางตา
๔. ชิวหาทวารวิถี ได้แก่ จิต ๔๖ ดวง เหมือนทางตา
๕. กายทวารวิถี ได้แก่ จิต ๔๖ ดวง เหมือนทางตา
๖. มโนทวารวิถี ได้แก่ จิต ๖๗ ดวง คือ
มโนทวาราวัชชนจิต ๑ ดวง รวม ๖๗ ดวง
กามชวนจิต ๒๙ ดวง
ตทาลัมพนจิต ๑๑ ดวง
วิญญาณวิถี กับ วิสยัปปวัตติ มีความหมายอย่างเดียวกันคือ
วิถีวิญญาณที่เป็นไป ในอารมณ์ ๖ โดยที่อารมณ์นั้นปรากฏชัดเจนมากบ้าง น้อยบ้าง
วิสยะ = อารมณ์ ปวัตติ = ความเป็นไป
วิสยัปปวัตติ ได้แก่ จิตที่เป็นไปกับอารมณ์ คราวหนึ่งๆ หรือวาระหนึ่งๆ แยกออกเป็น ๒ อย่างคือ
๑. วิสยัปปวัติในปฏิสนธิกาล คือ ความเป็นไปของจิต และเจตสิกในปฏิสนธิกาลนั้น
มีอารมณ์ ๓ อย่างคือ
กรรมอารมณ์ ได้แก่ ธรรมารมณ์ ที่เกี่ยวกับกุศลกรรม และอกุศลกรรม
ซึ่งทำให้เกิดปฏิสนธิในภพหน้า แสดงตัวให้เด่นชัด
อภิมุขีภูตํ
กรรมนิมิตอารมณ์ ได้แก่ อารมณ์ที่เป็นเหตุของการกระทำ ได้แก่
อารมณ์ ๖ คือ สี เสียง กลิ่น รส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง
หย่อน ตึง และสภาพที่รู้ทางใจ
โดยมุ่ง เอาแต่อารมณ์ ๖ ที่เกี่ยวด้วยการกระทำของตน
คตินิมิตอารมณ์ ได้แก่ อารมณ์แห่งภพชาติ ที่พึงเข้าถึง คือ อารมณ์ที่จะ
ได้เสวยในภพต่อไป
เป็นอารมณ์ที่ได้จากภพก่อน เป็นจิตที่พ้นทวาร เป็นจิตที่พ้นวิถี เรียกว่า วิถีวิมุตตจิต
๒. วิสยัปปวัติในปวัตติกาล คือ ความเป็นไปของจิต และเจตสิกที่เป็นไปใน
ปวัตติกาล มีอารมณ์ ๖ อย่างคือ รูปารมณ์ ฯลฯ เป็นต้น และปรากฏชัดเจน
เพียงใด จิตที่เป็นไปในปวัตติกาลนี้ชื่อว่า วิถีจิต ซึ่งมี ๖ วิถี
แบ่งออกเป็น ๒ ทางคือ ทางปัญจทวาร และ ทางมโมทวาร
ทางปัญจทวาร มี ๔ คือ
๑. อติมหันตารมณ์วิถี คือวิถีที่มีอารมณ์ ยาวที่สุด แรงที่สุด
ตี. น. ท. ปัญจ. จ. สัม. สัน. โว. ช ช ช ช ช ช ช. ตทา ตทา. ภ.
๑. อดีตภวังค์ ได้แก่ กามปฏิสนธิจิต ๑๐ ดวง
๒. ภวังคจลนะ ได้แก่ กามปฏิสนธิจิต ๑๐ ดวง
๓. ภวังคุปัจเฉทะ ได้แก่ กามปฏิสนธิจิต ๑๐ ดวง
๔. ปัญจทวาราวัชชนะ ได้แก่ ปัญจทวาราวัชชนจิต ๑ ดวง (อาวัชชนกิจ)
๕. ปัญจวิญญาณ ได้แก่ ทวิปัญจวิญญาณจิต ๑๐ ดวง (ดวงใดดวงหนึ่ง)
๖. สัมปฏิจฉันนะ ได้แก่ สัมปฏิจฉันนะจิต ๒ ดวง (ดวงใดดวงหนึ่ง)
๗. สันตีรณะ ได้แก่ สันตีรณจิต ๓ ดวง (ดวงใดดวงหนึ่ง)
๘. โวฏฐัพพนะ ได้แก่ มโนทวารวัชชนจิต ๑ ดวง (โวฏฐัพพนกิจ)
๙.
ชวนะ
๑๐. ชวนะ
๑๑. ชวนะ
๑๒. ชวนะ
๑๓. ชวนะ
๑๔. ชวนะ
๑๕. ชวนะ
๑๖. ตทาลัมพนะ ได้แก่ ตทาลัมพนจิต ๑๑ ดวง คือ
๑๗. ตทาลัมพนะ สันตีรณจิต ๓ ดวง และ
มหาวิบากจิต
๘ ดวง
๒. มหันตารมณ์วิถี คือ วิถีที่มีอารมณ์ ยาวพอสมควร แรงพอควร
มี ๒ นัย คือ
๑) ตี. ตี. น. ท. ปัญจ. จ. สํ. ณ. โว. ช ช ช ช ช ช ช. ภ ภ.
คือ ขณะที่ ๑-๓ เป็น ภวังค์
ขณะที่ ๔ เป็น ภวังคจลนะ
ขณะที่ ๕ เป็น ภวังคุปัจเฉท
ขณะที่ ๖ จึงจะเป็น ปัญจทวาราวัชชนะ
แล้วเป็นต่อไปจนสุดชวนะที่ ๑๕ แล้วหมดวิถี
๒) ตี. ตี. ตี. น. ท. ปัญจ. จ. สํ. ณ. โว. ช ช ช ช ช ช ช. ภ ภ.
คือ วิถีจิตหมดลงเมื่อหมดชวนะที่ ๑๕ โดยไม่มีตทาลัมพนะ ๒ ขณะ
๓. ปริตตารมณ์วิถี คือวิถีที่มี อารมณ์สั้น มี ๖ นัย คือ
๑) ตี. ตี. ตี. ตี. น. ท. ปัญจ. จ. สํ. ณ. โว. โว. โว. ภ. ภ. ภ. ภ.
๒) ตี. ตี. ตี. ตี. ตี น. ท. ปัญจ. จ. สํ. ณ. โว. โว. โว. ภ. ภ. ภ.
๓) ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. น. ท. ปัญจ. จ. สํ. ณ. โว. โว. โว. ภ. ภ.
๔) ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. น. ท. ปัญจ. จ. สํ. ณ. โว. โว. โว. ภ.
๕) ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. น. ท. ปัญจ. จ. สํ. ณ. โว. โว. โว
๖) ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. น. ท. ปัญจ. จ. สํ. ณ. โว. โว
๔. อติปริตตารมณ์วิถี คือวิถีที่มี อารมณ์สั้นที่สุด มี ๖ นัย คือ
๑) ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. น. น. ภ. ภ. ภ. ภ. ภ.
๒) ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. น. น. ภ. ภ. ภ. ภ.
๓.) ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. น. น. ภ. ภ. ภ.
๔) ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. น. น. ภ. ภ.
๕) ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. น. ภ. ภ.
๖) ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. ตี. น. น.
อติปริตตารมณ์วิถี บางทีเรียกว่า โมฆะวาระ
เพราะอารมณ์นี้ไม่มีวิถีจิตเกิดได้เลยทั้ง ๖ นัยของอติปริตตารมณ์
เพราะการรู้อารมณ์น้อยมากเหลือเกิน คือไม่ได้รับอารมณ์ใหม่เลย
ก. อติมหันตารมณ์ เรียก ตทาลัมพนวาระ เพราะ สิ้นสุดที่ตทาลัมพนะ
ข. มหันตารมณ์ เรียก ชวนวาระ เพราะ สิ้นสุดที่ชวนะ
ค. ปริตตารมณ์ เรียก โวฏฐัพพนวาระ เพราะ สิ้นสุดที่โวฏฐัพพนะ
ง. อติปริตตารมณ์ เรียก โมฆะวาระ เพราะ ไม่ได้รับอารมณ์ใหม่เลย
จิตที่มีสิทธิ์มาทำ ภวังคจิตสืบต่อภพใน อติมหันตารมณ์ มีได้เพียง กามภวังค์
คือ อุเบกขาสันตีรณจิต ๒ ดวง กับ มหาวิบากจิต ๘ ดวง
และ วิถีทางตทาลัมพนวาระนี้ ก็เกิดได้เฉพาะ กามภูมิ เท่านั้น
๑. ต้องเป็น กามภูมิ
๒. ต้องเป็น กามสัตว์
๓. ต้องเป็น กามชวนะ
๔. ต้องเป็น อารมณ์ที่มีกำลังแรง
๕. ต้องเป็น กามอารมณ์
๑. วิภูตารมณ์วิถี ได้แก่ อารมณ์ ๖ ที่ปรากฎชัดทางใจ มากที่สุด
จนทำให้วิถีจิต ถึง ตทาลัมพนวาระ
น. ท. ม. ช. ช. ช. ช. ช. ช. ช. ต. ต. (ตทาลัมพนวาระ)
๒. อวิภูตารมณ์วิถี ได้แก่ อารมณ์ ๖ ที่ปรากฎชัดทางใจมาก
จนทำให้วิถีจิต ถึง แค่ชวนเท่านั้น
น. ท. ม. ช. ช. ช. ช. ช. ช. ช. ภ (ชวนวาระ)
อายุของจิต
๑ ขณะจิต คือ อายุจิตดวงหนึ่ง แบ่งออกโดยอาการปรากฏเป็น ๓ อนุขณะ คือ
๑. อุปปาทขณะ คือ ขณะเริ่มก่อน ขณะแรกเกิด
๒. ฐีติขณะ คือ ขณะตั้งอยู่ ยังไม่ดับ
๓. ภังคขณะ คือ ขณะที่กำลังดับ
อายุของจิตนี้ มีการเกิดดับเร็วมาก
คนธรรมดา มีชวนะ ๗ ขณะ
คนเจ็บ มีชวนะ ๖ ขณะ
คนใกล้ตาย มีชวนะ ๕ ขณะ
ยมกปฏิหาริย์
มีชวนะ
๔ - ๕ ขณะ
ขณะอยู่ในฌาน มีชวนะเกิด-ดับได้มาก ไม่จำกัดจำนวน
ในปัญจทวารอติมหันตารมณ์ ๑ วิถี ประกอบด้วยจิตเกิด-ดับ ๑๗ ขณะ( ๕๑ อนุขณะ )
การนับวิถีจิต นับโดยย่อมี ๗ วิถี ( นับ ๑ ขณะ ๑ วิถี กิจเหมือนกันนับเป็น ๑)
นับโดยสามัญมี ๑๔ วิถี (นับ ๑ ขณะ ๑ วิถี)
นับโดยพิเศษ ๔๖ วิถี (นับจำนวนจิตที่ทำกิจได้)
นับโดยพิสดาร ๕๔ วิถี (เพิ่มจิตในส่วนของทวิปัญจวิญญาณ)
ตี. น. ท. ปัญจ. จัก. สัม. ณ. โว. ช ช ช ช ช ช ช. ตทา ตทา. ภ.
นับโดยย่อ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ = ๗
นับโดยสามัญ ๑
๒ ๓
๔ ๕
๖-๑๒
๑๓-๑๔
=๑๔
นับโดยพิเศษ
๑
๒
๒ ๓
๑
กามชวน ๒๙
๘
รวม ๔๖
นับโดยพิสดาร ๑ ๑๐ ๒ ๓ ๑ กามชวน ๒๙ ๘ รวม ๕๔