หนูดา...ท่องสวรรค์ชั้นดาวดึงศ์

**หนูดา..ท่องสวรรค์ดาวดึงส์**

อัญชลี สมโสภณ...... เรื่องและภาพ

มาลี อาณากุล .......เทคนิค
	วันนี้ ..แม่ดอกแก้วไปพบแพทย์ตามที่นัดไว้ จึงฝากหนูดาไปอยู่กับคุณป้าสมปรารถนา ที่อยู่ข้างบ้านของเธอ แม่ดอกแก้ว: หนูดาไปอยู่กับป้า อย่าเอาแต่เล่นนะลูก อยู่กับใครก็อย่าดูดาย ต้องช่วยเหลือท่านนะลูก หนูดา : ค่ะแม่	หนูดา : นี่ไงคะ สวยมั้ย แม่ดอกแก้ว : สวยจ๊ะ	แหละแล้ว แม่ดอกแก้วกลับมาถึงบ้าน พร้อมกับความสบายใจที่แพทย์บอกว่า “อาการป่วยดีขึ้นมากนะครับ จนไม่น่าเชื่อจริงๆ หนูดา : แม่จ๋าวันนี้หนูดามีความสุขจังเลย แม่ดอกแก้ว : ไปทำอะไรมาหรือ หนูดา : หลังจากที่หนูช่วยคุณป้าสมปรารถนาปลูกต้นไม้แล้ว คุณป้าสอนหนูหัดร้อยมาลัยจ๊ะแม่ หนูดา : หนูดาตั้งใจว่าคืนนี้หนูดาจะเอามาลัยไปไหว้พระจ๊ะแม่
3. นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ…. และในค่ำคืนนี้ หนูดาก็นอนหลับอย่างเป็นสุข และเมื่อเธอหลับสนิท เธอก็เริ่มฝัน…			หนูดา …หนูเป็นเด็กดี คืนนี้ป้าจะชวนหนูไปเที่ยวแห่งดินแดนที่สวยงามนะจ๊ะ ณ ที่แห่งนี้ เราเรียกว่า “สวรรค์ชั้นดาวดึงส์”

เชิญท่องนครธรรม แห่งดาวดึงส์ เทวภูมิ กับหนูดากันเถอะค่ะ

เอ้ ที่ไหนนะนี่… ทำไมสวยสดงดงามมากมายเหลือเกิน

หนูดา ได้ไปเที่ยว
ณ
พระนครสุทัสสนะ

ท่ามกลางพระนครยัง มี ปราสาทเวชยันต์

อันเป็นที่อยู่ของ
ท้าวสักกะเทวราช

เป็นพระนครที่มีแต่ความรื่นรมย์ ใจ

เมื่อไปทางทิศตะวันออกของพระนคร ได้พบกับ

เมื่อไปทางทิศตะวันออกของพระนคร ได้พบกับ

สวนดอกไม้

ชื่อ สวนนันทวัน ภายในสวนมีสระโบกขรณีอยู่ 2สระ ชื่อ มหานันทา และ จูฬนันทา

เมื่อไปทางทิศตะวันตกของพระนคร ได้พบกับ

สวนดอกไม้

ชื่อ สวนจิตรดา ภายในสวนมีสระโบกขรณีอยู่ 2สระ ชื่อ วิจิตรา และจูฬจิตรา

ทางทิศเหนือของพระนคร ได้พบกับ

สวนดอกไม้

ชื่อ สวนมิสสกวัน ภายในสวนมีสระโบกขรณีอยู่ 2สระ ชื่อ ธัมมา และสุธัมมา

ทางทิศใต้ของพระนคร ได้พบกับ

สวนดอกไม้

ชื่อ สวนผารุสกวัน ภายในสวนมีสระโบกขรณีอยู่ 2สระ ชื่อ ภัททา และสุภัททา

สวนทั้ง 4 แห่งเป็นที่น่าเที่ยวและเป็นที่รื่นเริงใจแก่เทวดาทั้งหลาย และ หนูดาเองก็เก็บเอาความรื่นเริงใจมาด้วย

ยังมีสวนที่พิเศษอีก 2 แห่ง

สวนมหาวัน

สวนปุณฑริกะ

สวนปุณฑริกะ มี

พระจุฬามณี
พระแท่นปัณฑุกัมพลศิลาอาสน์
และศาลาสุธัมมาเทวสภา

ณ ศาลาสุธัมมา

หนูดาได้เห็นเทพบุตรและเทพธิดามากมาย พากันมาฟังธรรม และสนทนาธรรมกัน ณ ที่นี้

ศาลานี้ทำด้วยแก้วรัตนะทั้ง 7 ประการ รวมทั้งประดับแก้วผลึก เครื่องทอง และเงินที่สวยสดงดงาม
และ ศาลาแห่งนี้ตั้งอยู่ข้างๆ ของ ต้นปาริฉัตร

หนูดา ได้ไปพบกับ ต้นปาริฉัตร ซึ่งจะออกดอกเพียงปีละ ๑ ครั้ง

สีของ ดอกปาริฉัตร นี้มีสีแดง ฉายแสงเป็นรัศมีแผ่กว้าง ส่งกลิ่นหอมไปตามลมได้ ๑๐๐ โยชน์
ซึ่งจะมี

“ลมกันตนะ” ทำหน้าที่พัดให้ดอกหล่นลงมาเอง
“ลมสัมปฏิจฉนะ” ทำหน้าที่รองรับดอกไม้ไม่ให้หล่นลงสู่พื้น
“ลมปเวสนะ” ทำหน้าที่พัดเอาดอกไม้เข้าไปในศาลาสุธัมมา
“ลมสัมมิชชนะ” ทำหน้าที่คอยพัดเอาดอกเก่าออกไป
“และลมสันถนะ” ทำหน้าที่จัดดอกไม้ให้เป็นระเบียบไม่ให้รวมกันเป็นกอง

แม่ดอกแก้ว : หนูดาตื่นเถอะลูก

หนูดา : แม่หรือคะ หนูดาขอนอนต่อนะคะแม่ หนูดากำลังฝันดี แต่วันนี้เป็นวันหยุดนะคะแม่

แม่ดอกแก้ว : ใช่จ๊ะ แต่แม่เตรียมอาหารไว้ให้ลูกใส่บาตรนะคะ วันนี้วันเกิดลูกนะจ๊ะ

หนูดาลืมตื่นขึ้นมาพร้อมด้วยสติ ทำความรู้สึกตัว และกำหนด “ รูปนอน” อีกสักครู่ และกล่าว “ขอบคุณค่ะแม่”

หลังจากนั้นหนูดาก็รีบไปชำระกายเพื่อเตรียมไปใส่บาตรพร้อมกับแม่ดอกแก้วของเธอค่ะ
( สวัสดีค่ะ โปรดติดตามตอนต่อไป)

วิถีแห่งความฝัน..คำถามของหนูดา

	หลังจากที่หนูดาฝันว่าได้ไปเที่ยวสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จึงทำให้หนูดาแปลกใจกับความฝันเช่นนี้ หนูดาจึงเข้าไปสนทนาธรรมกับแม่ดอกแก้ว		หนูดา : ความฝันเกิดตอนไหนหรือคะแม่ แม่ดอกแก้ว : เกิดตอนขณะที่คนเรานอนหลับไม่สนิทจ๊ะ หนูดา : แล้วทำไมคนเราต้องฝันด้วยละคะ แม่ดอกแก้ว: ความฝันเกิดได้จาก 4 เหตุ เดี๋ยวแม่จะเล่าให้ฟังนะ
	เกิดจาก ปุพพนิมิต : เป็นความฝันที่เกิดจากอำนาจของกุศลกรรมหรืออกุศลกรรม ที่ตนเคยทำมาในอดีต และเมื่อถึงเวลาให้ผล อำนาจกรรมเหล่านี้ก็จะมากระตุ้นใจให้เกิดเป็นความฝันขึ้นก่อน ฝันชนิดนี้จะเป็นจริงดังฝันแน่นอน จิตอาวรณ์ เป็นความฝันที่เกิดจากอำนาจของจิตที่หน่วงเอาอารมณ์ที่ตนเคยเห็น เคยได้ยิน หรือได้พบมาแล้ว เก็บเอาอารมณ์นั้นมาฝัน ฝันชนิดนี้เอาเป็นที่แน่นอนไม่ได้ เทพสังหรณ์ เป็นความฝันที่เกิดจากอำนาจของเทวดามาบอกเหตุร้ายเหตุดี ฝันชนิดนี้อาจเป็นจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ขึ้นอยู่กับเทวดานั้นมีความเห็นถูก(สัมมาทิฏฐิ) หรือ มีความเห็นผิด(มิจฉาทิฏฐิ)หรือไม่ ธาตุกำเริบ เป็นความฝันที่เกิดจากอำนาจของบุคคลที่ธาตุกำเริบ เช่น ท้องไส้ไม่เป็นปกติ ฝันชนิดนี้เอาเป็นที่แน่นอนไม่ได้


หนูดา : แล้วความฝันเกิดกับใครได้บ้างละคะ แม่ดอกแก้ว : เกิดได้กับบุคคลทั้งหมดหมดจ๊ะ ยกเว้น สัตว์นรก รูปพรหม อรูปพรหม และ พระอรหันต์ ที่เว้นสัตว์นรก… เพราะสัตว์เหล่านี้ได้รับทุกข์ทรมานมาก จนไม่มีการหลับนอน ที่เว้นรูปพรหม อรูปพรหม ….เพราะท่านพักผ่อนนอนหลับด้วยการอยู่ในฌาน สำหรับ พระอรหันต์ ไม่มีการพักผ่อนเหมือนปุถุชน เพราะท่านเป็นผู้ปราศจากอาสวกิเลสแล้ว จึงไม่ได้มีความฝันแต่ประการใด		หนูดา : ขอบคุณคะแม่ แต่แม่คะหนูดาสงสัยว่า ถ้าขณะที่คนเราฝันเห็นเกี่ยวกับการทำความดี หรือทำความชั่วแล้วตายในขณะนั้น จะนำเกิดที่ดีหรือไม่ดีได้หรือเปล่าคะ แม่ดอกแก้ว : ไม่ได้จ๊ะ เพราะเวลาฝันเจตนามีกำลังน้อย ไม่เหมือนกับตอนที่คนเราตื่นอยู่ แต่เจตนาเหล่านี้คงส่งผลได้บ้างในปวัตติกาล แต่อย่างไรเจตนาในความฝันก็ไม่สามารถล่วงถึงความเป็นกรรมบถ เพราะเกิดในอารมณ์ที่ไม่เป็นปกติ


	หนูดา : ขอบคุณคะแม่ แต่เมื่อคืนนี้ หนูดาฝันดีนะคะแม่ คุณแม่ไปอ่านในกระทู้ที่ผ่านมาแล้วกันนะคะ หนูดาจะไปเล่นหมากเก็บกับเพื่อนๆแล้วค่ะ (ค้นคว้า จากคู่มือการศึกษาพระอภิธัมมัตถสังคหะ ปริเฉทที่๔ "วิถีสังคหวิภาค" โดย พระอาจารย์บุญมี เมธางกูร และอาจารย์บุษกร เมธางกูร)