บุญกิริยาวัตถุ  ๑๐  ประการ

           

บุญกิริยาวัตถุ  มาจากภาษาบาลีคือ  ปุญญกริยาวตฺถุ  เมื่อแยกบทแล้วได้ ๓  บท

                          ได้แก่  ปุญญ + กริยา + วตฺถุ

 

ปุญญ   หมายถึง        การงานดี  ที่ชำระความเศร้าหมองเร่าร้อน

กริยา   หมายถึง        ควรทำ

วตถุ     หมายถึง        เป็นเหตุ  เป็นที่ตั้งแห่งผลดี

 

เมื่อรวมกันแล้ว        แปลความว่า  “ความดีที่ควรทำ เพราะเป็นเหตุเป็นที่ตั้งแห่งผลดี”

 

 

              กุศลกรรมบท  ๑๐

 

กุศลเจตนาที่เกิดในจิต  ๑๖  ดวง 

คือ  มหากุศลจิต  ๘  และมหากิริยาจิต  ๘  ที่เป็นไปทางกายทวาร คือกายวิญญัติ ๑

มีการถวายทานเป็นต้น เรียกว่า  “ กายกรรม ”   ในที่นี้หมายถึงเฉพาะเจตนาที่

เกิดขึ้นในมหากุศลจิต   ๘ เท่านั้น    เพราะ  เจตนาที่เกิดในมหากิริยา

เป็นอัพยากตไปแล้ว  ไม่เรียกว่า กุศลกรรมบท ในที่นี้

           

มหากุศลเจตนา ๘  ที่เกิดทางวจีทวาร 

คือ วจีวิญญัติรูป  มีการเว้นจากการพูดเท็จ  เรียกว่า  “ วจีกรรม ”

           

ธรรมที่เป็นสัมปยุตกับเจตนาในมหากุศลจิต  ๘  มีอโลภะ  อโทสะ  และปัญญาเป็นต้น

                        เรียกว่า  “ มโนกรรม ”  ที่เป็นทางใจ  มโนทวารในที่นี้หมายถึง มหากุศลจิต ๘

 

 กรรมบทมี  ๒๐  คือ

 

                                                                     ๑.   กุศลกรรมบท  ๑๐

                                               

        ๒ อกุศลกรรมบท  ๑๐

 

 

 


 

    ย่อบุญกิริยาวัตถุ  ๑๐

 

ทานมัย

ทานมัย     ปัตติทานมัย     ปัตตานุโมทนามัย              สงเคราะห์ลงเป็น ทาน

 

 สีลมัย

.  สีลมัย     อปจายนะมัย     เวยยาวัจจะมัย                    สงเคราะห์ลงเป็น ศีล

 

ภาวนามัย

ธัมมัสสวนมัย     ธัมมเทสนามัย     ทิฏฐิชุกัมมะ        สงเคราะห์ลงเป็น ภาวนา

 

ส่วนทิฏฐิชุกรรม   เป็นประธานของบุญกิริยาวัตถุ  ๙ ข้อ

เพราะผู้ที่จะทำบุญรักษาศีลเป็นต้น จำเป็นต้องมีความเห็นตรง จึงจะทำได้

 

ว่าโดยเจตนามี  ๒๐  คือ       อกุศลเจตนา  ๑๒  ดวง

                                                กามาวจรกุศลเจตนา  ๘  ดวง

 


 

        รูปาวจรกุศลกรรม  ๕  อย่าง

 

.   ปฐมฌานกุศลเจตนา  ๑  ดวง    

เอาบัญญัติกัมมัฏฐาน  ๒๕  เป็นอารมณ์

.  ทุติยฌาน – ตติยฌาน – และจตุตถฌานกุศลเจตนา  ๓  ดวง   

เอาบัญญัติกัมมัฏฐาน  ๑๔  เป็นอารมณ์

.   ปัญจมฌานกุศลเจตนา  ๑  ดวง           

เอาบัญญัติกัมมัฏฐาน  ๑๒  เป็นอารมณ์

            *รูปาวจรกุศลเจตนาทั้ง  ๕ ดวงนี้  จัดเป็นมโนกรรม  เกิดทางมโนทวารได้อย่างเดียว

 


อรูปาวจรกุศลกรรม  ๔

 

                        อากาสานัญจายตนกุศลเจตนา ๑    

เอากสิณุคฆาฏิมากาส   เป็นอารมณ์

            วิญญาณัญจายตนกุศลเจตนา ๑    

เอาอากาสานัญจายตนกุศลจิต ๑   เป็นอารมณ์

            อากิญจัญญายตนกุศลเจตนา ๑           

เอานัตถิภาวบัญญัติของอากาสานัญจายตนกุศลจิต   เป็นอารมณ์

            เนวสัญญานาสัญญายตนกุศลเจตนา ๑  

เอาอากิญจัญญายตนกุศลจิตที่ล่วงไปแล้ว   เป็นอารมณ์

            *อรูปาวจรกุศลเจตนาทั้ง  ๔ ดวงนี้  จัดเป็นมโนกรรม  ที่เกิดทางมโนทวารได้อย่างเดียว
 


 

ภูมิเป็นที่ให้ผลของกามาวจรกรรม

           

อกุศลจิต  ๑๑  (เว้นอุทธัจจสัมปยุตตจิต)

ส่งผลในปฏิสนธิกาล    ทำให้เกิดเป็นสัตว์นรก  เปรต  อสุรกาย  และเดรัจฉาน

ในอบายภูมิ ๔ ตามหนักเบา

           

อกุศลจิต  ๑๒

                        ส่งผลในปวัตติกาล  ให้อกุศลวิปากจิต ๗  มีการเห็นไม่ดี  ได้กลิ่นไม่ดี ฯลฯ เป็นต้น

                        เกิดขึ้นได้ในกามภูมิ ๑๑  และ รูปภูมิ ๑๕ (เว้นอสัญญสัตตภูมิ)

ตามควรแก่ทวาร และอารมณ์

previous      next