ประวัติหลวงพ่อใหญ่


หลวงพ่อ "พระสุพรรณรังษี" หรือ หลวงพ่อใหญ่ เป็นประธานฝ่ายเทวดา อยู่ ณ อภิธรรมมูลนิธิสำนักวิปัสสนาอ้อมน้อย (ตามคำบอกเล่าจากพระอาจารย์บุญมี เมธางกูร)  มีหน้าตักกว้าง ๑๙๐ ซม. สูง ๒๗๗ ซม.  พระพุทธปฏิมาสร้างด้วยศิลา ในสมัยกรุงศรีอยุธยา 

 

หลวงพ่อใหญ่ประดิษฐานอยู่บนแท่นสูงจากพื้น ๔๕๗ ซม. คิดความสูงจากพื้น หลวงพ่อจะสูงถึง ๗๓๔ ซม. มองเห็นเด่นชัดแต่ไกล หากนั่งรถยนต์ผ่านมาตามถนนเพชรเกษม จะมองเห็นเด่นสง่างามมาก
 

เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาเสียกรุงแก่พม่า พม่าได้ทำลายบ้านเมือง เผาวัดวาอาราม รวมทั้งพระพุทธรูปไปเป็นจำนวนมาก

ต่อมาสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระครูศีลกิตติคุณ (หลวงพ่ออั้น) ซึ่งเป็นอธิการวัดพระญาต ตำบลไผ่ลิง อำเภอเมืองกรุงเก่า ท่านมีน้ำใจกอปรด้วยมหากุศล ได้รวบรวมพระพุทธรูปที่ถูกพม่าเผาทำลายได้เป็นจำนวนมาก นำมาบูรณะขึ้นใหม่ เพื่อรักษาศิลปปฏิมากรรมของเก่าแก่ที่บรรพบุรุษได้อุตสาหะสร้างไว้  เมื่อหลวงพ่ออั้นให้ช่างบูรณะตกแต่งให้วิจิตรงดงามสมตามพระพุทธลักษณะแล้ว ท่านได้แจกจ่ายไปประดิษฐาน ณ วัดวาอารามต่าง ๆ ที่ขออาราธนาไป  รวมทั้งทางมูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ สำนักวิปัสสนาอ้อมน้อยด้วย

องค์หลวงพ่อมีพระลักษณะเป็นเครื่องชักนำจิตใจผู้ที่ได้ไปสักการะให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธา เป็นที่พึ่งและเคารพของหมู่ศิษย์ พระอิริยาบถประทับนั่งปางสมาธิ ในบรรดาพระพุทธรูปศิลาในสมัยกรุงศรีอยุธยาส่วนมากจะสร้างปางมารวิชัย หาปางสมาธิยากนัก  จึงนับว่าเหมาะสมอย่างยิ่งที่ได้หลวงพ่อใหญ่มาสถิตย์เป็นพระประธานอยู่ ณ มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิสำนักวิปัสสนาอ้อมน้อย
 

ท่านประธานและคณะกรรมการมูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ พร้อมด้วยนักศึกษาพระอภิธรรม ได้ไปร่วมงานในพิธีอัญเชิญหลวงพ่อพระสุพรรณรังษี ที่วัดพระญาติการาม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันอาทิตย์ที่  ๑๔  มกราคม  ๒๕๑๑ ตรงกับขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนยี่ ปีวอก เวลา ๑๒.๔๕ น. ได้เคลื่อนขบวนออกจากวัดพระญาติการาม ถึงสำนักวิปัสสนาอ้อมน้อย เวลา ๑๕.๑๕ น. และได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จำนวน ๒๗ องค์ บรรจุไว้ในพระเศียรของหลวงพ่อ เมื่อเวลา ๑๗.๓๐ น.

 


อนึ่งในวันที่ทำพิธีอัญเชิญหลวงพ่อใหญ่ ขึ้นสู่แท่นที่ประดิษฐานเมื่อเวลา ๑๖.๔๕ น. พระภิกษุได้สวดชยันโตคาถา แต่ตอน อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นบรรจุในพระเศียรของหลวงพ่อ  พระภิกษุที่นิมนต์มาในพิธี มิได้สวดชยันโตคาถา(อาจจะลืมไปก็เป็นได้) แต่กลับปรากฏการณ์มหัศจรรย์พลันแว่วมาแต่ไกล ทุกคนต่างมองไปในศาลาธรรมสภาแต่ไม่ปรากฏว่าพระคุณเจ้าพระองค์ใดสวดพระพุทธมนต์ คณะกรรมการและผู้ที่มาร่วมพิธี  ต่างลงความเห็นว่าเทพยาดาที่คุ้มครองอภิธรรมมูลนิธิสำนักวิปัสสนาอ้อมน้อย มีความปิติปราโมทย์ จึงได้แสดงศุภนิมิตให้ปรากฏ และบางท่านยังได้ยินเสียงลั่นฆ้องพร้อมกับเสียงสวดชยันโตไปด้วย
 

นอกจากนั้น คุณสอน ไตรยสรรค์ ซึ่งเป็นกรรมการบริหารมูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ สำนัก ฯ มาตั้งแต่ต้น ได้เล่าให้ฟังว่า อภิธรรมมูลนิธิสำนักวิปัสสนาอ้อมน้อย อยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ ก็เพราะหลวงพ่อใหญ่ท่านคุ้มครองรักษาสถานที่ รวมทั้งผู้มาปฏิบัติ ณ สถานที่แห่งนี้

Home   จดหมายเหตุ ฯ ประวัติหลวงพ่อใหญ่  ระเบียบปฏิบัติ  ความรู้ก่อนการปฏิบัติ   หลักปฏิบัติ ๑๕ ข้อ