ปริจเฉทที่ ๔ วิถีสังคหวิภาค
หน้าที่
: 1 2
3 4 5 6 7
8 9 10 11 12
13 14 15 16 17
18 19 20 21 22
23 24 25
26 27 28 29 30 31 32
33 34 35 36 37 38 39
40 41 42 43 44 45 46
47 48 49 50
51 52 53 54 55 56 57
58 59 60 61 62 63 64
65 66 67 68 69 70 71
72 73 74 75
76 77 78 79 80 81
82 83 84 85 86 87 88 89
90 91 92 93 94 95 96 ค้นหาหัวข้อธรรม
อวิภูตารมณ์วิถี
เป็นวิถีทางใจที่มีอารมณ์ชัดเหมือนกัน
แต่ว่าชัดน้อยกว่า อ่อนกว่า
วิภูตารมณ์วิถี
มีขณะจิตเกิดอย่างเดียวกับวิภูตารมณ์วิถี
เป็นแต่มีถึงเพียง ชวนะเท่านั้น
ไม่ตั้งอยู่จนถึงตทาลัมพนะ
กล่าวคือ มี ภวังคจลนะ
ภวังคไหว ๑ ขณะ,
ภวังคุปัจเฉทะ
ตัดกระแสภวังค ๑ ขณะ,
มโนทวาราวัชชนะ
๑
ขณะ และ ชวนะ
๗
ขณะ รวมเป็น ๑๐ ขณะจิตเท่านั้น
กล่าวโดยวิถีจิต
มีเพียง ๒ คือ
มโนทวาราวัชชนจิตอย่างหนึ่ง
ชวนจิตอีก อย่างหนึ่ง
กล่าวโดยจิตตุปปาทะ
มี ๘ คือ
มโนทวาราวัชชนจิตเกิดขึ้น ๑ ขณะ
และ ชวนจิตเกิดขึ้น ๗ ขณะ
กล่าวโดยพิสดาร
คือ
จำนวนจิตที่สามารถจะเกิดในวิถีนี้ได้นั้น
ได้แก่ มโน ทวาราวัชชนจิต ๑ ดวง
และกามชวนจิต ๒๙ ดวง รวมเป็น ๓๐
ดวง ด้วยกัน
กิริยาจิต
๑ กามชวนจิต
๒๙ กามจิต
๑๐
|
|
|||
|
|
|
||
น ท มโน
ช ช ช ช ช ช ช
ชวนวาระ
๑
๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘
จิตตุปปาทะ
๘
|
|
|
|
|
|
๑
๒
วิถีจิต
๒
อนึ่งมโนทวารกามวิถีนี้
มีจิตพิสดาร(จำนวนมากที่สุด)
๔๑
นั้นก็คือ กามจิต ๔๑ (เว้นทวิปัญจวิญญาณ
๑๐ มโนธาตุ ๓)
นั่นเอง
ที่ต้องเว้นทวิปัญจวิญญาณ
๑๐ และ มโนธาตุ ๓ ก็เพราะจิต ๑๓
ดวงนี้เกิด
ได้เฉพาะแต่ในปัญจทวารวิถีเท่านั้น
จะเกิดทางมโนทวารวิถีไม่ได้
มโนทวารวิถี
(กล่าวตามนัยแห่งพระอภิธัมมัตถสังคหะของพระอนุรุทธาจารย์
โดยเฉพาะ)
ไม่มีอตีตภวังค
เพราะอารมณ์ที่ปรากฏทางมโนทวารวิถีนี้
ไม่ได้กระทบ
ภวังคจิตก่อนเหมือนกับปัญจทวารวิถี
หากแต่จิตเกิดขึ้นก่อนแล้วจึงรับอารมณ์นั้น
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง
ทางปัญจทวารวิถีนั้น
อารมณ์เป็นปัจจัยมากระทบมากระตุ้น
เตือนจิต
ให้จิตไหวตัวขึ้นรับอารมณ์
ส่วนทางมโนทวารวิถีนั้น
จิตไหวตัวหน่วงเอา อารมณ์นั้น ๆ
มาเอง
เนื่องจากการที่จิตไหวตัว
หน่วงเอาอารมณ์นั้น ๆ
มาเองดังกล่าวนี้ มโนทวาร
วิถีจึงมีกิจการงานที่จะต้องกระทำน้อยอย่าง
วิถีจิตจึงมีน้อยเพียง ๓
อย่างเท่านั้น คือ
ก.
มโนทวาราวัชชนจิต
ผู้ทำหน้าที่นำวิถี
ได้หน่วงเอาอารมณ์นั้น ๆ มาเอง
โดยตัดสินให้เป็นกุสล
อกุสลเสร็จไปพร้อมกันในตัวเองทีเดียว
อย่างที่ว่า ก่อเอง สานเอง
หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า
มโนทวาราวัชชนจิตได้คิดนึกเป็นกุสล
อกุสล เอง
ไม่มีจิตอื่นเป็นสื่อนำมาให้
ข.
แล้วชวนจิตก็เกิดขึ้น
เสพอารมณ์นั้นโดยความเป็นกุสล
หรืออกุสล ตามที่
มโนทวาราวัชชนจิตได้กำหนดนึกนั้น
ค.
และเพราะว่าอารมณ์ชัดแจ้งมาก
มีกำลังมาก
ตทาลัมพนะจึงต้องรับรู้
อารมณ์นั้นต่อจากชวนจิตอีกทอดหนึ่ง
ส่วนทางปัญจทวารวิถี
มีจิตอื่นทำกิจของเขามาก่อน คือ
รับรู้อารมณ์มาก่อน
เป็นหลายทอดหลายหน้าที่
แล้วจึงเสนอถึงโวฏฐัพพนะ ก็คือ
มโนทวาราวัชชนะ นั่นเอง
เป็นผู้ตัดสินกำหนดให้เป็นกุสล
หรืออกุสล ขอให้ดูภาพวิถีจิต (หน้า
๗-๘)
ประกอบด้วย
จะเห็นได้ว่า
ปัญจทวารวิถีมีกิจการงานต้องกระทำหลายอย่าง
มีวิถีจิต มากถึง ๗ อย่าง
จัดทำโดย มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ