ปริจเฉทที่ ๕ วิถีมุตตสังคหวิภาค
หน้าที่
: 1 2
3 4 5 6 7
8 9 10 11 12
13 14 15 16 17
18 19 20 21 22
23 24 25
26 27 28 29 30 31 32
33 34 35 36 37 38 39
40 41 42 43 44 45 46
47 48 49 50
51 52 53 54 55 56 57
58 59 60 61 62 63 64
65 66 67 68 69 70 71
72 73 74 75
76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 ค้นหาหัวข้อธรรม
๓.
ภูมิของเปรต
ภูมิของเปรตมีชื่อว่า
เปตภูมิ
สัตว์ที่ชื่อว่าเปรตนั้นเป็นสัตว์ที่มีความเดือดร้อน
เพราะมีความเป็นอยู่อย่างหิวโหยอดอยาก
ซึ่งต่างกับสัตว์นรก
ที่มีความเดือดร้อน เหมือนกัน
แต่ว่าเดือดร้อนเพราะถูกทรมาน
เปรต
ส่วนมากอยู่ที่ป่า วิชฌาฏวี
มี มหิทธิกเปรต
เป็นเจ้าปกครอง
ดูแลเปรตทั้งหลาย
แต่ว่าเปรตที่ไม่มีที่อยู่ที่อาศัยโดยเฉพาะ
เที่ยวอยู่ทั่ว ๆ ไป เช่น ตามป่า
ตามภูเขา เหว เกาะ ทะเล ป่าช้า
ก็มีมากเหมือนกัน
เปรต
๔ จำพวก
ในเปตวัตถุอรรถกถา แสดงเปรต ๔
จำพวก คือ
๑.
ปรทัตตุปชีวิกเปรต
เป็นเปรตที่เลี้ยงชีวิตอยู่โดยอาศัยอาหารที่ผู้อื่นให้โดย
การเซ่นไหว้ เป็นต้น
๒.
ขุปปีปาสิกเปรต
เป็นเปรตที่อดอยาก หิวข้าว
หิวน้ำ อยู่เป็นนิจ
๓.
นิชฌามตัณหิกเปรต
เป็นเปรตที่ถูกไฟเผาให้เร่าร้อนอยู่เสมอ
๔.
กาลกัญจิกเปรต
เป็นเปรตในจำพวกอสุรกาย หรือ
เป็นชื่อของอสุราที่ เป็นเปรต
เปรตที่สามารถจะได้รับส่วนกุสลที่มีผู้อุทิศให้นั้น
ได้แก่ ปรทัตตุปชีวิกเปรต
จำพวกเดียวเท่านั้น
เพราะเปรตจำพวกนี้โดยมากอยู่ในบริเวณใกล้
ๆ กับมนุษย์ ถึง กระนั้นก็จะต้องรู้ว่าเขาแผ่ส่วนกุสลให้
จึงจะสามารถรับได้ด้วยการอนุโมทนา
ถ้า ไม่รู้ไม่ได้อนุโมทนา
ก็ไม่ได้รับส่วนกุสลนั้นเหมือนกัน
ในอปาทานอรรถกถา
สุตตนิบาตอรรถกถา
และพุทธวังสะอรรถกถาแสดงว่า
บรรดาพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย
นับตั้งแต่ได้รับพุทธพยากรณ์
เป็นต้นไป จะไม่เกิดเป็น
ขุปปีปาสิกเปรต
นิชฌามตัณหิกเปรต หรือ
กาลกัญจิกเปรต
ถ้าจะต้องไปเกิดเป็น เปรต
ก็จะเกิดเป็นปรทัตตุปชีวิกเปรต
ประเภทเดียวเท่านั้น
เปรต
๑๒ จำพวก
ในคัมภีร์โลกบัญญัตติปกรณ์ และ
ฉคติทีปนีปกรณ์ แสดง เปรต ๑๒
จำพวก คือ
๑.
วันตาสเปรต
เปรตที่กินน้ำลาย
เสมหะ อาเจียร เป็นอาหาร
๒.
กุณปาสเปรต
เปรตที่กินซากศพคน
หรือสัตว์ เป็นอาหาร
๓.
คูถขาทกเปรต
เปรตที่กินอุจจาระต่าง
ๆ เป็นอาหาร
๔.
อัคคิชาลมุขเปรต
เปรตที่มีเปลวไฟลุกอยู่ในปากเสมอ
๕.
สุจิมุขเปรต
เปรตที่มีปากเท่ารูเข็ม
๖.
ตัณหัฏฏิตเปรต
เปรตที่ถูกตัณหาเบียดเบียฬให้หิวข้าวหิวน้ำอยู่เสมอ
๗.
สุนิชฌามกเปรต
เปรตที่มีตัวดำเหมือนตอไม้ที่เผา
๘.
สุตตังคเปรต
เปรตที่มีเล็บมือเล็บเท้ายาวคมเหมือนมีด
๙.
ปัพพตังคเปรต
เปรตที่มีร่างกายสูงใหญ่เท่าภูเขา
๑๐.
อชครังคเปรต
เปรตที่มีร่างกายเหมือนงูเหลือม
๑๑.
เวมานิกเปรต
เปรตที่ต้องเสวยทุกข์ในเวลากลางวัน
แต่กลางคืนได้ ไปเสวยสุขในวิมาน
๑๒.
มหิทธิกเปรต
เปรตที่มีฤทธิ์มาก
เปรต
๒๑ จำพวกในวินัยและลักขณสังยุตตพระบาลีแสดงเปรต
๒๑ จำพวก คือ
๑.
อัฏฐีสังขสิกเปรต เปรตที่มีกระดูกติดกันเป็นท่อน
ๆ แต่ไม่มีเนื้อ
๒.
มังสเปสิกเปรต เปรตที่มีเนื้อเป็นชิ้น
ๆ แต่ไม่มีกระดูก
๓.
มังสปิณฑเปรต เปรตที่มีเนื้อเป็นก้อน
๔.
นิจฉวิปริสเปรต เปรตที่ไม่มีหนัง
๕.
อสิโลมเปรต
เปรตที่มีขนเป็นพระขรรค์
๖.
สัตติโลมเปรต
เปรตที่มีขนเป็นหอก
๗.
อุสุโลมเปรต
เปรตที่มีขนเป็นลูกธนู
๘.
สูจิโลมเปรต
เปรตที่มีขนเป็นเข็ม
๙.
ทุติยสูจิโลมเปรต เปรตที่มีขนเป็นเข็มชนิดที่
๒
๑๐.
กุมภัณฑเปรต เปรตที่มีอัณฑะใหญ่โตมาก
๑๑.
คูถกูปนิมุคคเปรต เปรตที่จมอยู่ในอุจจาระ
๑๒.
คูถขาทกเปรต เปรตที่กินอุจจาระ
๑๓.
นิจฉวิตกิเปรต เปรตหญิงที่ไม่มีหนัง
๑๔.
ทุคคันธเปรต เปรตที่มีกลิ่นเหม็นเน่า
๑๕.
โอคิลินีเปรต
เปรตที่มีร่างกายเป็นถ่านไฟ
๑๖.
อลิสเปรต
เปรตที่ไม่มีศีรษะ
๑๗.
ภิกขุเปรต
เปรตที่มีรูปร่างสัณฐานเหมือน
พระ
๑๘.
ภิกขุณีเปรต
เปรตที่มีรูปร่างสัณฐานเหมือน
ภิกษุณี
๑๙.
สิกขมานเปรต เปรตที่มีรูปร่างสัณฐานเหมือน
สิกขมานา
(สามเณรีที่ได้รับการอบรมเป็นเวลา
๒ ปี เพื่อบวชเป็นภิกษุณี)
๒๐.
สามเณรเปรต เปรตที่มีรูปร่างสัณฐานเหมือน
สามเณร
๒๑.
สามเณรีเปรต เปรตที่มีรูปร่างสัณฐานเหมือน
สามเณรี
จัดทำโดย มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ