ปริจเฉทที่ ๖ รูปสังคหวิภาค

หน้าที่ : 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50
51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74
75
76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 ค้นหาหัวข้อธรรม

ละความชั่วทั้งปวง ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้ใสบริสุทธิ์...

กัมมสมุฏฐาน

       กรรมที่เป็นสมุฏฐานให้เกิดรูปนั้นเรียกว่า กัมมสมุฏฐาน กรรม คือการกระทำ ที่เกี่ยวด้วย กาย วาจา และใจ ถ้าเป็นไปในฝ่ายดีงาม ก็เรียกว่า กุสลกรรม ถ้าเป็นไปฝ่ายที่ไม่ดีไม่งามก็เรียกว่า อกุสลกรรม

       กรรมที่เป็นสมุฏฐานให้เกิดรูป ก็เรียกว่า กัมมสมุฏฐาน และกรรมในที่นี้ หมายถึง เจตนาในจิต ๒๕ คือ เจตนาในอกุสลจิต ๑๒  เจตนาในมหากุสลจิต ๘  เจตนาในรูปาวจรกุสล ๕ ทั้ง ๒๕ นี้ เป็นกรรมที่ทำให้เกิดรูปได้

       ส่วนเจตนาในอรูปาวจรกุสล ๔ เป็นกรรมที่เกิดขึ้นโดยอาศัยการเจริญ กัมมัฏฐานชนิด รูปวิราคภาวนา คือปราศจากความยินดีในรูป ไม่ปรารถนาจะมีรูป ด้วยอานิสงส์แห่งรูปวิราคภาวนานั้น จึงทำให้ไม่เกิดกัมมชรูป ไปเกิดเป็นอรูปพรหม

       ส่วนโลกุตตรกุสล ๔ (มัคคกรรม ๔) เป็นกรรมที่เกิดขึ้นโดยอาศัยเจริญ กัมมัฏฐาน ชนิดเห็นรูป-นาม เป็นไตรลักษณะ (วิปัสสนาภาวนา) อันเป็นกรรมที่ ทำลายภพ ทำลายชาติ กัมมชรูปนั่นแหละเป็นตัวภพ ตัวชาติ ฉะนั้นโลกุตตร กุสลกรรมทั้ง ๔ นี้ จึงไม่ทำให้กัมมชรูปเกิด

 

       กัมมชรูป ๑๘ คือ รูปที่เกิดจากกรรม ได้แก่

  ปสาทรูป       ๕ (จักขุปสาทรูป, โสตปสาทรูป, ฆานปสาทรูป,                          ชิวหาปสาทรูป,  กายปสาทรูป)

  ภาวรูป   (อิตถีภาวรูป,  ปุริสภาวรูป)

  หทยรูป       

  ชีวิตรูป

  ปริจเฉทรูป   

  อวินิพโภครูป ๘ (ปฐวี, อาโป, เตโช, วาโย, วัณณะ, คันธะ,                             รสะ, โอชา)

       ทั้ง ๑๘ รูปนี้เป็นรูปที่เกิดจากกรรม อาจเกิดจากกุสลกรรม หรือ อกุสลกรรม ก็ได้ และกรรมในที่นี้ หมายเอาทั้งกรรมในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติ

       การเกิดขึ้นของกัมมชรูป กัมมชรูปนี้ มีอยู่ในสัตว์ทั้งหลายที่มีรูปขันธ์ คือเกิดได้ในสัตว์ที่มีขันธ์ ๕ (ปัญจโวการภูมิ ๒๖ ภูมิ) ได้แก่ เทวดา พรหม อสัญญสัตตพรหม มนุษย์ และสัตว์ทั้งหลาย เว้นอรูปภูมิ ๔ รวม ๒๗ ภูมิ

       กัมมชรูป จะเริ่มเกิดตั้งแต่ปฏิสนธิเป็นต้นมา และจะเกิดได้ทั้ง ๓ อนุขณะ คือ เกิดทั้งในอุปาทขณะ ฐีติขณะ และภังคขณะของปฏิสนธิจิต เป็นต้นมา ต่อมาก็เกิดทุก ๆ ขณะย่อยหรืออนุขณะของจิตทุก ๆ ดวง

       จนเมื่อใกล้จะตาย ตั้งแต่ฐีติขณะจิตดวงที่ ๑๗ ที่นับจากจุติจิตย้อนถอยหลัง ทวนมา กัมมชรูปใหม่ไม่เกิดอีก ส่วนกัมมชรูปที่เกิดขึ้นที่อุปาทขณะของจิตดวง   ที่ ๑๗ นี้ ย่อมตั้งอยู่ได้จนถึงจุติจิต จึงจะครบอายุแล้วก็ดับลงไปพร้อมกับภังคขณะ ของจุติจิตพอดี

       กัมมชรูป ๑๘ คือ ปสาทรูป ๕, ภาวรูป ๒, หทยรูป ๑, ชีวิตรูป ๑, ปริจ เฉทรูป ๑, อวินิพโภครูป ๘ คือรูปที่เกิดจากกรรมโดยแน่นอน (เอกันตะ) นั้นมี  ๙ รูป คือ ปสาทรูป ๕, ภาวรูป ๒, หทยรูป ๑, ชีวิตรูป ๑  ทั้ง ๙ รูปนี้ เป็นรูปที่เกิดจากกรรม โดยสมุฏฐานเดียว

       ส่วนที่เหลืออีก ๙ คือ อวินิพโภครูป ๘ และปริจเฉทรูป ๑ ไม่ได้เกิดจาก กรรม โดยสมุฏฐานเดียว มีสมุฏฐานอื่นร่วมด้วยเรียกว่า อะเนกันตะ คือไม่แน่นอน

       ในตัวของคนและสัตว์ทั้งหลายนั้น มี ตา  หู  จมูก ลิ้น กาย  ความเป็นหญิง ความเป็นชาย หัวใจ และชีวิต รวม ๙ นี้ เกิดได้แต่เฉพาะในร่างกายของสัตว์ ทั้งหลายเท่านั้น ในสิ่งที่ไม่มีชีวิตเกิดไม่ได้ ส่วนรูปที่เหลืออีก ๙ นั้น คือ อวินิพโภค รูป ๘ และปริจเฉทรูป ๑ เกิดจากกรรมเป็นสมุฏฐานไม่แน่นอน คือเกิดในร่างกาย ของสัตว์ทั้งหลายก็ได้ เกิดในสิ่งที่ไม่มีชีวิตทั้งหลายก็ได้

สรุป

       ในตัวของคนและสัตว์ทั้งหลายมีรูปที่เกิดจากกรรม โดยส่วนเดียว มี ๙ คือ ตา ได้แก่ จักขุปสาท, หู ได้แก่ โสตปสาท, จมูก ได้แก่ ฆานปสาท, ลิ้น ได้แก่   ชิวหาปสาท, กาย ได้แก่ กายปสาท, ใจ ได้แก่ หทยวัตถุ, ความเป็นหญิง ได้แก่ อิตถีภาวะ,  ความเป็นชาย ได้แก่ ปุริสภาวะ,  ชีวิต ได้แก่ ชีวิตรูป

       ทั้งหมดนี้เราทำมา เราสร้างมา จะดีหรือไม่ดีจะไปโทษใครไม่ได้ ผู้สร้างคือ กุสล และอกุสล ใครทำกุสลไว้ก็ได้กัมมชรูปดี ใครทำอกุสลไว้ก็ได้กัมมชรูปที่ไม่ดี

?????? ?????????? ???????????????????? ???...
จัดทำโดย มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ
ศีล สมาธิ ปัญญา... หนทางสายเอก...