ปริจเฉทที่ ๗ สมุจจยสังคหวิภาค

หน้าที่ : 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50
51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74
75
76 77 78 79 80 81 82 83 ค้นหาหัวข้อธรรม

ละความชั่วทั้งปวง ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้ใสบริสุทธิ์...

มิสสกสังคหะกองที่ ๗ อาหาร ๔

อาหารนฺตีติ อาหารา ฯ ธรรมที่เป็นเหตุอุดหนุนส่งเสริมให้เกิดผล ธรรม นั้นแหละชื่อว่า อาหาร

ธรรมใด นำมาซึ่งรูปอันเกิดจากโอชา, นำมาซึ่งเวทนา, นำมาซึ่งปฏิสนธิ วิญญาณ และนำมาซึ่งเจตสิกกับกัมมชรูป ธรรมนั้น ๆ ชื่อว่า อาหาร

อาหาร มี ๔ ประการ คือ

. กพฬีการาหาร นำมาซึ่งรูปอันเกิดจากโอชา คือ ข้าว น้ำ ขนม นม เนย นี่แหละ ทำให้เกิดอาหารชสุทธัฏฐกกลาปในสันดานของสัตว์ทั้งหลาย มีมนุษย์เป็น ต้น เป็นอาหารแห่งรูปกายของสัตว์ หล่อเลี้ยงและทำความเจริญให้แก่ร่างกายของ สัตว์ ถ้าขาดอาหารเสียแล้ว รูปกายของสัตว์ก็จะพลันพินาศลง ดำรงคงอยู่สืบไป ไม่ได้ องค์ธรรมของกพฬีการาหารนั้น ได้แก่ โอชาที่อยู่ในอาหารต่าง ๆ ก็คือ อาหารรูปนั่นเอง กพฬีการาหารเป็นรูปปรมัตถ กพฬีการาหารนี้บางทีก็เรียกว่า กวฬีงการาหาร

. ผัสสาหาร นำมาซึ่งเวทนา คือ การเสวยอารมณ์เป็นสุขบ้างทุกข์บ้าง ไม่ ทุกข์ไม่สุขบ้าง ให้เกิดขึ้น องค์ธรรมได้แก่ ผัสสเจตสิก ที่ในจิตทั้งหมด เวทนาทั้ง หลายนั้น ถ้าไม่มีผัสสะแล้ว ก็ไม่เกิดขึ้น เพราะผัสสะนี่แหละเป็นเหตุให้เกิดเวทนา จึงว่าผัสสะเป็นอาหารของเวทนา ผัสสาหารเป็นเจตสิกปรมัตถ

. มโนสัญเจตนาหาร นำมาซึ่งปฏิสนธิวิญญาณ คือ การเกิดเป็นมนุษย์ เทวดา พรหม และอบายสัตว์ องค์ธรรมได้แก่ เจตนาเจตสิก ที่ในอกุสลจิต ๑๒ โลกียกุสลจิต ๑๗ เจตนาที่เป็นกุสลอกุสลนี่แหละเป็นเหตุให้เกิดวิญญาณอันเป็น กุสลวิบากและอกุสลวิบาก ทั้งในปฏิสนธิกาลและในปวัตติกาล ถ้าไม่มีเจตนา คือ กรรมมาปรุงแต่งแล้ว สัตว์ทั้งหลายเมื่อตายแล้วก็ไม่มีการเกิด เมื่อไม่มีการเกิดก็ไม่มี การเห็น การได้ยิน เป็นต้น ดังนั้นเจตนาเจตสิกจึงได้ชื่อว่าเป็นมโนสัญเจตนาหาร มโนสัญเจตนาหารนี้เป็นเจตสิกปรมัตถ

. วิญญาณาหาร นำมาซึ่งเจตสิกและกัมมชรูป องค์ธรรมของวิญญาณา หารได้แก่จิตทั้งหมด จิตทั้งหมดนี่แหละนำมาซึ่งเจตสิก เพราะจิตและเจตสิกต้อง เกิดพร้อมกัน แต่จิตนี้เป็นประธาน จึงกล่าวได้ว่า จิตนำมาซึ่งเจตสิก ส่วนกัมมชรูป เป็นรูปที่เกิดจากกรรมอันได้กระทำมาแต่อดีตก็จริง แต่ว่าในภพปัจจุบันนี้ กัมมชรูป ก็เกิดพร้อมกับจิตทุก ๆ ขณะจิต (ในปัญจโวการภูมิ) ดังนั้นก็กล่าวได้ว่า จิตนำมา ซึ่งกัมมชรูป

มีคำอธิบายอีกนัยหนึ่งว่า จิต คือ วิญญาณ เป็นผู้นำให้เจตสิกและกัมมชรูป เกิดขึ้นนั้นในปฏิสนธิกาล ปฏิสนธิวิญญาณนำให้เจตสิกและกัมมชรูปเกิด ในปวัตติ กาล ปวัตติวิญญาณนำให้เจตสิกเกิดแต่อย่างเดียว เพราะกัมมชรูปไม่ใช่รูปที่เกิดจาก จิต แต่อย่างไรก็ตาม กัมมชรูปที่เกิดในปวัตติกาลก็ดี แม้แต่กัมมชรูปของอสัญญ สัตตพรหมก็ดี ซึ่งไม่ได้เกิดจากจิตในภพปัจจุบันก็จริง แต่ว่าอาศัยเกิดมาจากกรรมใน อดีตที่เรียกว่า กัมมวิญญาณ ก็ขึ้นชื่อว่า วิญญาณเหมือนกัน ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า วิญญาณนำให้เกิดกัมมชรูป วิญญาณาหารนี้เป็นจิตปรมัตถ

มิสสกสังคหะกองที่ ๗ อาหาร ๔ นี้ กล่าวโดยสรุปคงได้ความว่า

กพฬีการาหาร องค์ธรรมได้แก่ อาหารรูป เป็นรูปปรมัตถ ทำให้เกิดอาหาร ชรูป

ผัสสาหาร องค์ธรรมได้แก่ ผัสสเจตสิก เป็นเจตสิกปรมัตถ ทำให้เกิดเวทนา

มโนสัญเจตนาหาร องค์ธรรมได้แก่ เจตนาเจตสิก เป็นเจตสิกปรมัตถ ทำให้ เกิดปฏิสนธิวิญญาณ

วิญญาณาหาร องค์ธรรมได้แก่ จิตทั้งหมด เป็นจิตปรมัตถ ทำให้เกิดเจตสิก และกัมมชรูป


?????? ?????????? ???????????????????? ???...
จัดทำโดย มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ
ศีล สมาธิ ปัญญา... หนทางสายเอก...