ปริจเฉทที่ ๗ สมุจจยสังคหวิภาค

หน้าที่ : 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50
51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74
75
76 77 78 79 80 81 82 83 ค้นหาหัวข้อธรรม

ละความชั่วทั้งปวง ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้ใสบริสุทธิ์...

องค์ธรรมของสัมมัปปธาน

องค์ธรรมของสัมมัปปธานทั้ง ๔ นี้ได้แก่ วิริยเจตสิก

ตามสัมปโยคนัย วิริยเจตสิกประกอบกับจิตได้ ๗๓ หรือ ๑๐๕ ดวง (เว้นอวีริยจิต ๑๖)

แต่วิริยเจตสิกที่เป็นสัมมัปปธานได้ เฉพาะที่ประกอบกับกุสลญาณสัมปยุตต จิต ๑๗ เท่านั้น คือ มหากุสลญาณ สัมปยุตตจิต ๔, มหัคคตกุสล ๙, มัคคจิต ๔

ส่วนวิริยเจตสิกที่ในอกุสลจิต ๑๒, ที่ในอเหตุกจิต ๒ (คือ มโนทวารา วัชชนจิต ๑ หสิตุปปาทจิต ๑) ที่ในมหากุสลญาณวิปปยุตตจิต ๔, ที่ในมหาวิบาก จิต ๘, ที่ในมหากิริยาจิต ๘, ที่ในมหัคคตวิบากจิต ๙, ที่ในมหัคคตกิริยาจิต ๙ และที่ในผลจิต ๔ รวม ๕๖ ดวงนี้ ไม่นับเป็นสัมมัปปธาน เพราะ

. วิริยเจตสิกที่ในอกุสลจิต ๑๒ เป็นสัมมัปปธานไม่ได้เพราะสัมมัปปธาน หมายความว่า การเพียรพยายามโดยชอบธรรม แต่อกุสลจิตเป็นจิตที่ไม่ชอบธรรม ดังนั้นวิริยเจตสิกที่ในอกุสลจิตจึงเป็นสัมมัปปธานไม่ได้ แต่เรียกได้ว่าเป็น มิจฉา ปธาน

. วิริยเจตสิกที่ในมโนทวาราวัชชนจิต ๑ เป็นสัมมัปปธานไม่ได้ เพราะ มโนทวาราวัชชนจิตไม่มีหน้าที่ทำชวนกิจประการหนึ่ง และเป็นจิตที่ไม่มีสัมปยุตต เหตุเลยอีกประการหนึ่ง ความเพียรพยายามนั้นจึงมีกำลังอ่อนไม่เรียกว่าเป็นความ พยายามอันยิ่งยวด ดังนั้น จึงเป็นสัมมัปปธานไม่ได้311.JPG (7458 bytes)

. วิริยเจตสิกที่ในหสิตุปปาทจิต ๑ เป็นสัมมัปปธานไม่ได้ เพราะจิตดวง นี้เป็นจิตยิ้มแย้มของพระอรหันต์ การยิ้มแย้มของพระอรหันต์เป็นแต่เพียงกิริยา ไม่มี การละอกุสลหรือเจริญกุสลแต่อย่างใด ดังนั้นจึงเป็นสัมมัปปธานไม่ได้

. วิริยเจตสิกที่ในมหากุสลญาณวิปปยุตต ๔ เป็นสัมมัปปธานไม่ได้ เพราะจิตที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา ก็ย่อมมีความเพียรพยายามน้อยเป็นธรรมดา ไม่ มากจนถึงกับเรียกว่าเป็นอย่างยิ่งยวดได้ และถ้าหากว่าจะเกิดมีความเพียรพยายาม เป็นอย่างยิ่งยวดขึ้นมา แต่เมื่อไม่ประกอบด้วยปัญญาแล้วไซร้ ก็ไม่สามารถที่จะรู้ อริยสัจจ ๔ ได้ ดังนั้นจึงเป็นสัมมัปปธานไม่ได้

แต่อีกนัยหนึ่งก็แสดงว่า วิริยเจตสิกที่ในมหากุสลญาณวิปปยุตต ๔ ก็เป็น สัมมัปปธานได้ เพราะจิตที่เป็นมหากุสลญาณวิปปยุตตที่เกิดขึ้นในขณะเจริญสติ ปัฏฐาน ก็นับว่าเป็นสติปัฏฐานได้ดังที่กล่าวแล้วตอนแสดงองค์ธรรมของสติปัฏฐาน นั้น เมื่อเป็นเช่นนี้วิริยะที่ในมหากุสลญาณวิปปยุตต ๔ อันเกิดขึ้นในขณะเจริญ สติปัฏฐาน ก็ควรนับเป็นสัมมัปปธานได้โดยทำนองเดียวกัน ส่วนที่จะบังเกิด ผลเพียงใดหรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก

. วิริยเจตสิกที่ในมหาวิบากจิต ๘ เป็นสัมมัปปธานไม่ได้ เพราะวิบากจิต ไม่ใช่ชวนจิต จึงไม่มีหน้าที่ทำการละอกุสล ไม่ก่ออกุสล ทำกุสล และเจริญกุสล รวม ๔ อย่าง อันเป็นกิจการงานโดยเฉพาะของสัมมัปปธาน มหาวิบากจิตมีหน้าที่ ทำแต่ปฏิสนธิกิจ ภวังคกิจ จุติกิจ และตทาลัมพนกิจเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็น สัมมัปปธานไม่ได้

. วิริยเจตสิกที่ในมหากิริยาจิต ๘ เป็นสัมมัปปธานไม่ได้ เพราะจิตทั้ง ๘ ดวงนี้เป็นจิตของพระอรหันต์ ซึ่งเรียกว่า อเสกขบุคคล คือบุคคลผู้จบการศึกษาแล้ว ละกิเลสได้เป็นสมุจเฉทปหาน ไม่มีอกุสลใดที่จะต้องละ ต้องระวังอีก รวมทั้งไม่มี กุสลใดที่จะต้องก่อ จะต้องรักษาให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีกแล้ว รวมความมหากิริยาจิต ไม่ต้องทำหน้าที่การงานของสัมมัปปธานนั้นเลย ดังนั้นจึงเป็นสัมมัปปธานไม่ได้

. วิริยเจตสิกที่ในมหัคคตวิบากจิต ๙ เป็นสัมมัปปธานไม่ได้ เพราะ จิตทั้ง ๙ ดวงนี้ ทำหน้าที่ ปฏิสนธิกิจ ภวังคกิจ จุติกิจ โดยเฉพาะเพียง ๓ อย่างนี้ เท่านั้น ไม่มีหน้าที่ในชวนกิจเลย จึงไม่มีหน้าที่ทำการ ละอกุสลไม่ก่ออกุสล ทำกุสล และเจริญกุสลทั้ง ๔ อย่างนี้แต่อย่างใดเลย เมื่อไม่มีหน้าที่ทำกิจการงานของสัมมัป ปธานจึงเป็นสัมมัปปธานไม่ได้311.JPG (7458 bytes)

. วิริยเจตสิกที่ในมหัคคตกิริยาจิต ๙ เป็นสัมมัปปธานไม่ได้ เพราะจิต ๙ ดวงนี้ เป็นจิตของพระอรหันต์ เมื่อเป็นจิตของพระอรหันต์ ก็มีเหตุผลดังกล่าวมา แล้วในมหากิริยาจิตนั้น ดังนั้นจึงเป็นสัมมัปปธานไม่ได้

. วิริยเจตสิกที่ในผลจิต ๔ (หรืออย่างพิสดาร ๒๐) เป็นสัมมัปปธาน ไม่ได้ เพราะผลจิตไม่ได้เป็นผู้กระทำการ ละอกุสล ไม่ก่ออกุสลไม่ทำกุสล และ เจริญกุสล อันเป็นหน้าที่การงานโดยเฉพาะของสัมมัปปธานแต่อย่างใด ๆ เลย เป็น แต่เพียงเป็นผู้รับผลเสวยผลที่มัคคจิตได้กระทำการงานทั้ง ๔ นั้นมาให้แล้ว เมื่อ ไม่ได้ทำหน้าที่ของสัมมัปปธาน จึงเป็นสัมมัปปธานไม่ได้


?????? ?????????? ???????????????????? ???...
จัดทำโดย มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ
ศีล สมาธิ ปัญญา... หนทางสายเอก...