ปริจเฉทที่ ๗ สมุจจยสังคหวิภาค
หน้าที่
: 1 2
3 4 5 6 7
8 9 10 11 12
13 14 15 16 17
18 19 20 21 22
23 24 25
26 27 28 29 30 31 32
33 34 35 36 37 38 39
40 41 42 43 44 45 46
47 48 49 50
51 52 53 54 55 56 57
58 59 60 61 62 63 64
65 66 67 68 69 70 71
72 73 74 75
76 77 78 79 80 81 82 83 ค้นหาหัวข้อธรรม
องค์ธรรมของสติปัฏฐาน
องค์ธรรมของสติปัฏฐานทั้ง
๔ นี้ได้แก่ สติเจตสิก
ตามสัมปโยคนัยนั้น
สติเจตสิกประกอบกับจิตที่เป็นโสภณได้ทั้งหมด
คือ ๕๙ หรือ ๙๑
แต่สติเจตสิก
ในสติปัฏฐานนี้ได้แก่
สติเจตสิกที่ประกอบกับติเหตุกชวนจิต
๓๔ ดวง เท่านั้น
ส่วนสติเจตสิกที่ประกอบกับจิตที่เป็น
มหากุสลญาณวิปปยุตต ๔ ,
มหากิริยา
ญาณวิปปยุตต ๔,
มหาวิบาก
๘,
มหัคคตวิบาก
๙ รวมจิต ๒๕ ดวงนี้ เป็น
สติปัฏฐานไม่ได้ เพราะ
ก.
สติเจตสิกที่ในมหากุสลญาณวิปปยุตต
๔,
มหากิริยาญาณวิปปยุตต
๔ นั้น
เป็นจิตที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา
จึงไม่สามารถกำหนดให้ระลึกรู้
และตั้งมั่นใน
อารมณ์อันเป็นหน้าที่
การงานของสติปัฏฐานนั้นให้ถึงนามรูปปริจเฉทญาณได้
เหตุนี้จึงเป็นสติปัฏฐานไม่ได้
แต่อีกนัยหนึ่งแสดงว่า
แม้สติเจตสิกที่ประกอบกับจิตที่เป็นมหากุสลญาณ
วิปปยุตต ๔
และมหากิริยาญาณวิปปยุตต ๔
ก็จัดเป็นสติปัฏฐานได้ เพราะการ
เจริญสติปัฏฐานนั้น
มิใช่ว่าจิตจะเป็นมหากุสลญาณสัมปยุตตอยู่เสมอตลอดไป
ย่อมต้อง
มีจิตที่เป็นญาณวิปปยุตตบ้าง
สัมปยุตตบ้าง สลับกันไป
ดังนั้นสติเจตสิกที่
ประกอบกับจิตมหากุสลญาณวิปปยุตตที่เกิดขึ้นในขณะที่เจริญสติปัฏฐาน
จึงนับว่า เป็นสติปัฏฐานได้
ส่วนการที่จะเจริญได้ผลเพียงใดหรือไม่นั้น
เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต่างหาก
ส่วน
มหากิริยาญาณวิปปยุตตจิต ๔
จะเกิดขึ้นในขณะใด
จึงจะนับว่าเป็นสติ
ปัฏฐานได้อย่างไรหรือไม่
ยังไม่พบคำอธิบาย
ข.
สติเจตสิกที่ในมหาวิบากจิต
๘ มีหน้าที่ทำ ปฏิสนธิกิจ
ภวังคกิจ จุติกิจ และ ตทาลัมพนกิจ
ไม่ได้ทำหน้าที่ระลึกรู้อารมณ์
และตั้งมั่นในอารมณ์เพื่อให้เห็น
รูปนาม
อันเป็นหน้าที่การงานของสติปัฏฐาน
คือ ชวนจิต
ดังนั้นจึงเป็นสติปัฏฐาน ไม่ได้
ค.
สติเจตสิกที่ในมหัคคตวิบากจิต
๙ ก็เช่นเดียวกัน
มีหน้าที่การงานทำ ปฏิสนธิกิจ
ภวังคกิจ และ จุติกิจเท่านั้น
ไม่ได้ทำหน้าที่ รู้เห็นรูปนาม
อันเป็นการ งานของสติปัฏฐาน คือ
ชวนกิจแต่อย่างใดเลย
จึงเป็นสติปัฏฐานไม่ได้
จัดทำโดย มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ