ปริจเฉทที่ ๘ ปัจจยสังคหวิภาค

หน้าที่ : 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50
51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74
75
76 77 78 79 80 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 92 93 94
95 96 ค้นหาหัวข้อธรรม

ละความชั่วทั้งปวง ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้ใสบริสุทธิ์...

. นิสสยปัจจัย

นิสสยปัจจัย จำแนกออกได้เป็น ๓ คือ

. ปัจจัยธรรมนั้น ช่วยอุปการะให้ปัจจยุบบันนธรรมเกิดขึ้นพร้อมกับตนด้วย และ ปัจจัยธรรมนั้นเป็นที่อิงอาศัยให้ปัจจยุบบันนธรรมตั้งมั่นอยู่ด้วย อย่างนี้ชื่อว่า สหชาตนิสสยปัจจัย

. ปัจจัยธรรม คือวัตถุที่เกิดก่อนปัจจยุบบันนธรรม และยังไม่ทันดับไปนั้น ได้ช่วยอุปการะ โดยเป็นที่อิงอาศัยให้ปัจจยุบบันนธรรมเกิดขึ้นด้วยให้ตั้งมั่นอยู่ด้วย อย่างนี้ชื่อว่า วัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัย

. ปัจจัยธรรม หมายเฉพาะ หทยวัตถุ (อย่างเดียว) ที่เกิดก่อนปัจจยุบบันน ธรรม และยังไม่ทันดับไปนั้น เป็นอารมณ์ด้วย ช่วยอุปการะโดยเป็นที่อิงอาศัยให้ ปัจจยุบบันนธรรมเกิดขึ้นด้วย ให้ตั้งมั่นอยู่ด้วย อย่างนี้ชื่อว่า วัตถารัมมณปุเรชาต นิสสยปัจจัย

เพื่อให้เห็นความแตกต่างกันระหว่าง ๓ ปัจจัยนี้ จึงขอกล่าวอีกนัยหนึ่ง ตาม ลักษณะของปัจจัย คือ

. สหชาตนิสสยปัจจัย มีลักษณะ ๒ ประการ

. สหชาต หมายความว่า ปัจจัยธรรมกับปัจจยุบบันนธรรมนั้นเกิดพร้อมกัน

. นิสสย หมายความว่า ปัจจัยธรรมเป็นที่อาศัย เป็นที่อิงอาศัยแห่งปัจจยุบ บันนธรรม โดยอาการตั้งมั่นด้วย

. วัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัย มี ลักษณะ ๓ ประการ

. วัตถุ หมายความว่า เป็นที่ตั้งของปัจจยุบบันนธรรม อันได้แก่ วัตถุ ๖ มีจักขุวัตถุ เป็นต้น หทยวัตถุเป็นที่สุด

. ปุเรชาต หมายความว่า ปัจจัยธรรม(คือวัตถุ ๖) นั้นเกิดก่อนปัจจยุบบันน ธรรมด้วย

. นิสสย หมายความว่า ปัจจัยธรรม (คือวัตถุ ๖) นั้นเป็นที่อาศัยเป็นที่อิง อาศัยแห่งปัจจยุบบันนธรรม โดยอาการตั้งมั่นด้วย

. วัตถารัมมณปุเรชาตนิสสยปัจจัย มีลักษณะ ๔ ประการ

. วัตถุ หมายความว่า เป็นที่ตั้งของปัจจยุบบันนธรรม ในที่นี้ได้แก่ หทย วัตถุ โดยเฉพาะ

. อารัมมณ หมายความว่า ปัจจัยธรรม (คือ หทยวัตถุ) นั้นเป็นอารมณ์ของ ปัจจยุบบันนธรรมด้วย

. ปุเรชาต หมายความว่า ปัจจัยธรรม (คือหทยวัตถุ) นั้นเกิดก่อนปัจจยุบ บันนธรรมด้วย

. นิสสย หมายความว่า ปัจจัยธรรม (คือ หทยวัตถุ) เป็นที่อาศัย เป็นที่อิง อาศัยแห่งปัจจยุบบันนธรรม โดยอาการตั้งมั่นด้วย

สหชาตนิสสยปัจจัย

. สหชาตนิสสย หมายความว่า เป็นที่อิงอาศัยกัน เพราะความที่เกิดพร้อม กัน

. ประเภท นามรูป เป็นปัจจัย นามรูปเป็นปัจจยุบบันน

. ชาติ เป็นสหชาตชาติ

. กาล เป็นปัจจุบันกาล

. สัตติ มีทั้ง ชนกสัตติ อุปถัมภกสัตติ

. องค์ธรรม

. ความหมายโดยย่อ                           เหมือนกับสหชาตปัจจัยทุกประการ

. ปัจจัยที่เกิดร่วมด้วยกันได้

วัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัย

. วัตถุปุเรชาต หมายความว่า วัตถุ ๖ ที่เกิดก่อน

. ประเภท รูปเป็นปัจจัย นามเป็นปัจจยุบบันน

. ชาติ เป็นวัตถุปุเรชาตชาติ หมายความว่า ปัจจัยธรรมซึ่งช่วยอุปการะแก่ ปัจจยุบบันนธรรมนั้น โดยการที่เป็นที่ตั้งด้วย และโดยการที่เกิดก่อนด้วย

. กาล เป็นกาลปัจจุบัน หมายความว่า แม้ปัจจัยธรรมจะเกิดก่อน แต่ก็ยัง ไม่ทันดับไป คือ ยังอยู่ในระหว่างฐีติขณะ ยังไม่ทันถึงภังคขณะ

. สัตติ มีทั้ง ชนกสัตติ และ อุปถัมภกสัตติ

. องค์ธรรมของปัจจัย ได้แก่ วัตถุ ๖ คือ จักขุวัตถุ โสตวัตถุ ฆานวัตถุ ชิวหาวัตถุ กายวัตถุ และหทยวัตถุ ที่เกิดก่อนปัจจยุบบันน

องค์ธรรมของปัจจยุบบันน ได้แก่ จิต ๘๕ (เว้นอรูปวิบาก ๔) ทั้งที่แน่นอน และไม่แน่นอน ในปัญจโวการภูมิ ที่เป็นปวัตติกาล

องค์ธรรมของปัจจนิก ได้แก่ โลภมูลจิต ๘, โมหมูลจิต ๒, มโนทวาราวัชชน จิต ๑, มหากุสลจิต ๘, มหากิริยาจิต ๘, อรูปจิต ๑๒ และโลกุตตรจิต ๗ (เว้นโสดาปัตติมัคคจิต ๑) รวมจิต ๔๖ ดวง ทั้งที่แน่นอนและไม่แน่นอน ปัญจ โวการปฏิสนธิจิต ๑๕ และรูปทั้งหมด

ที่ว่าทั้งที่แน่นอนและไม่แน่นอนนั้น เรื่องนี้ได้แสดงไว้ในปริจเฉทที่ ๓ ตอน วัตถุสังคหะแล้ว แต่เพื่อทบทวนความจำ จึงขอกล่าวซ้ำในที่นี้อีกว่า

() ปัจจยุบบันนธรรมที่แน่นอน ได้แก่ โทสมูลจิต ๒, อเหตุกจิต ๑๗ (เว้น มโนทวาราวัชชนจิต ๑), มหาวิบาก ๘, รูปาวจรจิต ๑๕ และโสดาปัตติมัคคจิต ๑ รวมจิต ๔๓ ดวง นี้ต้องอาศัยวัตถุเกิดอย่างแน่นอน

() ปัจจยุบบันนธรรม ที่ไม่แน่นอน ได้แก่ โลภมูลจิต ๘, โมหมูลจิต ๒, มโนทวาราวัชชนจิต ๑, มหากุสลจิต ๘, มหากิริยาจิต ๘, อรูปกุสลจิต ๔, อรูปกิริยาจิต ๔ และโลกุตตรจิต ๗ (เว้นโสดาปัตติมัคคจิต ๑) รวมจิต ๔๒ ดวงนี้ ถ้าเกิดในปัญจโวการภูมิ ก็ต้องอาศัยวัตถุเกิด ถ้าเกิดในจตุโวการภูมิไม่ต้องอาศัยวัตถุ ก็เกิดได้

() ปัจจนิกธรรมที่แน่นอน ได้แก่ อรูปวิบากจิต ๔ และรูปทั้งหมด ซึ่งเกิด ขึ้นได้โดยไม่ต้องอาศัยวัตถุ จึงเป็นปัจจนิกธรรมที่แน่นอน

() ปัจจนิกธรรมที่ไม่แน่นอน ก็คือ จิต ๔๒ ดวง ตามข้อ () นั่นเอง ซึ่งจิต ๔๒ ดวง นี้เกิดในปัญจโวการภูมิ ก็เป็นปัจจยุบบันนธรรม ถ้าเกิดในจตุโว การภูมิ ก็เป็นปัจจนิกธรรมไป จึงว่าไม่แน่นอน

. ความหมายโดยย่อ วัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัยนี้ มี ๓ วาระ คือ

() อพยากตะเป็นปัจจัยแก่อพยากตะ วัตถุ ๖ ที่เกิดก่อน เป็นวัตถุปุเรชาต นิสสยปัจจัย วิบากจิต ๓๒ (เว้นอรูปวิบาก ๔), กิริยาจิต ๒๐ ที่เกิดที่หลังวัตถุ ๖ นั้น เป็นวัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจยุบบันน เช่น

วัตถุ ๕ มีจักขุวัตถุเป็นต้น เป็นวัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัย ทวิปัญจวิญญาณ ๑๐ มีจักขุวิญญาณ เป็นต้น เป็นวัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจยุบบันน

หทยวัตถุ ที่เกิดพร้อมกับจิตดวงที่เกิดก่อน ๆ มีปฏิสนธิจิต เป็นต้น เป็นวัตถุ ปุเรชาตนิสสยปัจจัย วิบากจิต ๒๒ (เว้นทวิปัญจวิญญาณ ๑๐, อรูปวิบาก ๔) เป็น วัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจยุบบันน

หทยวัตถุ ที่เกิดอยู่ก่อน เวลาที่จะออกจากนิโรธสมาบัตินั้น เป็นวัตถุปุเรชาต นิสสยปัจจัย อนาคามิผลจิต ๑ อรหัตตผลจิต ๑ ที่เกิดขึ้นในขณะออกจากนิโรธ สมาบัตินั้น เป็นวัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจยุบบันน

วัตถุ ๖ ที่เกิดพร้อมกับจิตดวงที่นับถอยหลังจากจุติจิตไป ๑๗ ขณะ เป็นวัตถุ ปุเรชาตนิสสยปัจจัย จิตที่เกิดพร้อมกับวัตถุ ๖ ที่เหลือ ๑๖ ขณะ อันได้แก่ โลกีย วิบากจิต ๒๘(เว้นอรูปวิบาก ๔),กิริยาจิต ๒๐ เป็นวัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจยุบบันน

() อพยากตะเป็นปัจจัยแก่กุสล หทยวัตถุที่เกิดพร้อมกับจิตดวงก่อน  ๆ มี อาวัชชนจิต เป็นต้น เป็นวัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัย กุสลนามขันธ์ ๔ อันได้แก่ กุสลจิต ๒๑ ที่เกิดทีหลัง เป็นวัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจยุบบันน

หทยวัตถุที่เกิดพร้อมกับจิตดวงที่นับถอยหลังจากจุติจิตไป ๑๗ ขณะ เป็น วัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัย มรณาสันนกุสลชวนะ อันได้แก่ โลกียกุสลจิต ๑๗ เป็น วัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจยุบบันน

() อพยากตะ เป็นปัจจัยแก่อกุสล หทยวัตถุที่เกิดพร้อมกับจิตดวงก่อน ๆ มี อาวัชชนจิต เป็นต้น เป็นวัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัย อกุสลนามขันธ์ ๔ อันได้แก่ อกุสลจิต ๑๒ เป็น วัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจยุบบันน

หทยวัตถุ ที่เกิดพร้อมกับจิตดวงที่นับถอยหลังจากจุติจิตไป ๑๗ ขณะ เป็น วัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัย มรณาสันนอกุสลชวนะ อันได้แก่ อกุสลจิต ๑๒ เป็นวัตถุ ปุเรชาตนิสสยปัจจยุบบันน

. ปัจจัยที่เกิดร่วมด้วยกันได้ รวม ๘ ปัจจัย คือ

. วัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัย                       . อารัมมณปัจจัย

. อารัมมณาธิปติปัจจัย                          . อารัมมณูปนิสสยปัจจัย

. วัตถุปุเรชาตปัจจัย                            . วัตถุปุเรชาตวิปปยุตตปัจจัย

. วัตถุปุเรชาตัตถิปัจจัย                         . วัตถุปุเรชาตอวิคตปัจจัย

อนึ่ง ในนิสสยปัจจัย มีการแสดงอีกนัยหนึ่ง โดยรวมสหชาตนิสสยปัจจัยกับ วัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัย เข้าด้วยกัน และเรียกว่า มิสสกบท มิสสกบทนี้จำแนก เป็น ๒ วาระ คือ

. กุสลด้วยอพยากตะด้วย เป็นปัจจัยแก่กุสล โดยอำนาจแห่งสหชาตนิสสย ปัจจัย และวัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัย

มีความหมายว่า กุสลจิต ๒๑ คือ กุสลนามขันธ์ ๔ ขันธ์ใดขันธ์หนึ่งและ หทยวัตถุที่เกิดพร้อมกับจิตดวงก่อน ๆ เป็นสหชาตนิสสย และวัตถุปุเรชาตนิสสย ปัจจัย กุสลนามขันธ์ที่เหลือเป็นสหชาตนิสสยและวัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจยุบบันน

. อกุสลด้วย อพยากตะด้วย เป็นปัจจัยแก่อกุสล โดยอำนาจแห่งสหชาต นิสสยปัจจัยและวัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจัย

มีความหมายว่า อกุสลจิต ๑๒ คือ อกุสลนามขันธ์ ๔ ขันธ์ใดขันธ์หนึ่ง และ หทยวัตถุที่เกิดพร้อมกับจิตดวงก่อน ๆ เป็นสหชาตนิสสยและวัตถุปุเรชาตนิสสย ปัจจัย อกุสลนามขันธ์ที่เหลือ เป็นสหชาตนิสสยและวัตถุปุเรชาตนิสสยปัจจยุบบันน

ทั้ง ๒ วาระนี้ จะยกขันธ์เดียว หรือ ๒ ขันธ์ หรือ ๓ ขันธ์ เป็นปัจจัยก็ตาม ขันธ์ที่เหลือเท่าไรก็ตามก็เป็นปัจจยุบบันนเสมอไป

วัตถารัมมณปุเรชาตนิสสยปัจจัย

. วัตถารัมมณปุเรชาต หมายความว่า หทยวัตถุที่เกิดก่อน ซึ่งเป็นอารมณ์ ด้วยนั้น เป็นที่ตั้งที่อาศัยแก่จิตที่เกิดทีหลัง

. ประเภท รูปเป็นปัจจัย นามเป็นปัจจยุบบันน

. ชาติ เป็นอารัมมณชาติ หมายความว่า ปัจจัยธรรม ซึ่งช่วยอุปการะแก่ ปัจจยุบบันนธรรมนั้นได้แก่ อารมณ์ นั่นเอง

. กาล เป็นกาลปัจจุบัน หมายความว่า ปัจจัยธรรมนั้นยังอยู่ในระหว่างฐีติ ขณะ ยังไม่ถึง ภังคขณะ

. สัตติ มีทั้งชนกสัตติ และอุปถัมภกสัตติ

. องค์ธรรมของปัจจัย ได้แก่ หทยวัตถุ ที่เกิดพร้อมกับจิตดวงที่นับถอย หลังจากจุติจิตไป ๑๗ ขณะ

องค์ธรรมของปัจจยุบบันน ได้แก่ จิตที่เหลืออีก ๑๖ ขณะนั้น คือ มโนทวารา วัชชนจิต ๑, กามชวนจิต ๒๙, ตทาลัมพนจิต ๑๑ และ อภิญญาจิต ๒ (เฉพาะ อิทธิวิธอภิญญาเท่านั้น) ขณะที่เอาหทยวัตถุเป็นอารมณ์

องค์ธรรมของปัจจนิก ได้แก่ จิต ๘๙ ในเวลาที่ไม่ได้เอาหทยวัตถุเป็นอารมณ์  และรูปทั้งหมด

. ความหมายโดยย่อ วัตถารัมมณปุเรชาตนิสสยปัจจัยนี้ มี ๓ วาระ

() อพยากตะเป็นปัจจัยแก่อพยากตะ หทยวัตถุที่เกิดพร้อมกับจิตดวงที่นับ ถอยหลังจากจุติจิตไป ๑๗ ขณะเป็นปัจจัย จิตที่เหลืออีก ๑๖ ขณะ (เว้นกุสลชวนะ และอกุสลชวนะ) อันได้แก่ มโนทวาราวัชชนจิต ๑, หสิตุปปาทจิต ๑, มหากิริยา จิต ๘, ตทาลัมพนจิต ๑๑ และ อิทธิวิธอภิญญากิริยาจิต ๑ เป็นปัจจยุบบันน

() อพยากตะเป็นปัจจัยแก่กุสล หทยวัตถุที่เกิดพร้อมกับจิตดวงที่นับถอย หลังจากจุติจิตไป ๑๗ ขณะ เป็นปัจจัย มรณาสันนกุสลชวนจิต ๕ ขณะ อันได้แก่ มหากุสลจิต ๘ และอิทธิวิธอภิญญากุสลจิต ๑ เป็นปัจจยุบบันน

() อพยากตะเป็นปัจจัยแก่อกุสล หทยวัตถุที่เกิดพร้อมกับจิตดวงที่นับถอย หลังจากจุติจิตไป ๑๗ ขณะ เป็นปัจจัย มรณาสันนอกุสลชวนจิต ๕ ขณะ อันได้แก่ อกุสลจิต ๑๒ เป็นปัจจยุบบันน

. ปัจจัยที่เกิดร่วมด้วยกันได้ รวม ๘ ปัจจัย คือ

. วัตถารัมมณปุเรชาตนิสสยปัจจัย                          . อารัมมณปัจจัย 

. อารัมมณาธิปติปัจจัย                                   . อารัมมณูปนิสสยปัจจัย

. อารัมมณปุเรชาตปัจจัย                                  . วัตถารัมมณปุเรชาตวิปปยุตตปัจจัย

. วัตถารัมมณปุเรชาตัตถิปัจจัย                            . วัตถารัมมณปุเรชาตอวิคตปัจจัย


สอบถาม ปัญหาธรรมะ ได้ที่ลานธรรมมูลนิธิ ค่ะ...
จัดทำโดย มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ
ศีล สมาธิ ปัญญา... หนทางสายเอก...