ปริจเฉทที่ ๙ กัมมัฏฐานสังคหวิภาค
หน้าที่
: 1 2
3 4 5 6 7
8 9 10 11 12
13 14 15 16 17
18 19 20 21 22
23 24 25
26 27 28 29 30 31 32
33 34 35 36 37 38 39
40 41 42 43 44 45 46
47 48 49 50
51 52 53 54 55 56 57
58 59 60 61 62 63 64
65 66 67 68 69 70 71
72 73 74 75
76 77 78 79 80 81
82 83 84 85 86 87 88 89
90 91 92 93 94 95 96 97 98 99 100
101 102 103 104 105 106 107 108
109 110 111 112 113 114 115 116 117
118 119 120 121 122
123 124 125 126 ค้นหาหัวข้อธรรม
![]()
อนุปัสสนา
อนุปัสสนา
แปลว่า ตามเห็น ตามดูให้เห็นแจ้ง
หรือดูบ่อย ๆ ซึ่งก็มี ๓
อย่างเหมือนกัน ดังมีคาถาที่ ๑๖
แสดงว่า
๑๖.
อนิจฺจานุปสฺสนา
จ ตโต ทุกฺขานุปสฺสนา
อนตฺตานุปสฺสนา ติ ติสฺโส
อนุปสฺสนา ฯ
แต่นั้นพึงทราบ
อนุปัสสนา ๓ คือ อนิจจานุปัสสนา
ทุกขานุปัสสนา อนัตตานุปัสสนา
มีความหมายว่า
พระโยคาวจร
ผู้เจริญวิปัสสนากัมมัฏฐาน
มีความเพียร หมั่นตั้งสติ
มีสมาธิมั่นคง ไม่เผลอ
บังเกิดปัญญา เห็นแจ้งรูปธรรม
นามธรรม
มีความเกิดดับเป็นลักษณะ
ปรากฏให้เห็นตามความเป็นจริงแห่งสภาวธรรมว่า
เป็น
อนิจจัง
ไม่เที่ยง
จึงต้องดับไป
ๆ
เป็น
ทุกขัง
ทนอยู่ไม่ได้
จึงต้องดับไป
ๆ
เป็น
อนัตตา
บังคับบัญชาไม่ได้
จึงต้องดับไป
ๆ
อยู่ทุกขณะ
ต่อแต่นี้ไปพระโยคาวจรพึงพิจารณาด้วยปัญญา
ตามเห็นอย่างใดอย่างหนึ่งใน ๓
อย่าง คือ
๑.
อนิจจานุปัสสนา
ตามเห็นรูปธรรมนามธรรมที่เกิดดับอยู่ทุกขณะ
ว่าไม่เที่ยง
เหมาะใจในการดูอนิจจัง
เพราะบุญญาธิการแต่ปางก่อนแรงด้วย
สีล
๒.
ทุกขานุปัสสนา
ตามเห็นรูปธรรมนามธรรม
ที่เกิดดับอยู่ทุกขณะ
ว่าทนอยู่ไม่ได้
เหมาะใจในการดูทุกขัง
เพราะบุญญาธิการแต่ปางก่อนแรงด้วย
สมาธิ
๓.
อนัตตานุปัสสนา
ตามเห็นรูปธรรมนามธรรม
ที่เกิดดับอยู่ทุกขณะว่า
บังคับบัญชาไม่ได้
เหมาะใจในการดูอนัตตา
เพราะบุญญาธิการแต่ปางก่อนแรงด้วย
ปัญญา
การกำหนดจนเห็นไตรลักษณ์นี้
ย่อมเห็นแต่อย่างใดอย่างหนึ่ง
เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ไม่ใช่ว่าจะเห็นทั้ง ๓ อย่าง
เมื่อเห็นอย่างใดก็ได้ชื่อว่า
เห็นแจ้งทั้ง ๓ อย่าง เพราะทั้ง ๓
อย่างนี้มีลักษณะที่สมคล้อยกัน
กล่าวคือ
เพราะไม่เที่ยง
จึงทนอยู่ไม่ได้
ที่ทนอยู่ไม่ได้ก็เพราะไม่เที่ยง
ถ้าเที่ยงก็ทนอยู่ได้
ถ้าทนอยู่ได้ก็ถือว่าเที่ยงได้
ที่ไม่เที่ยงทนอยู่ไม่ได้
ก็เพราะบังคับบัญชาว่ากล่าวไม่ได้
ถ้าบังคับบัญชาว่ากล่าวได้
ก็จะบังคับบัญชาให้เที่ยงให้ทนอยู่ได้
เมื่อเห็นลักษณะใด
ก็ตามดูลักษณะนั้นเรื่อยไป
และนับตั้งแต่ได้เห็น ไตรลักษณ์
แห่งรูปนามเป็นต้นไป
ได้ชื่อว่ามีปัญญาถึงขั้น
วิปัสสนาญาณ
แล้ว
![]()
จัดทำโดย มูลนิธิอภิธรรมมูลนิธิ
![]()